ติดตั้ง gps รถยนต์

ติดตั้ง gps รถยนต์

ติดตั้ง gps รถยนต์

ติดตั้ง gps รถยนต์ – ติดตั้ง gps รถยนต์ ในปัจจุบันระบบ GPS ที่เรานำมาใช้งาน สามารถแบ่งตามวัตถุประสงค์และประโยชน์ของการใช้งานหลักๆได้ 2 แบบคือ ใช้เพื่อนำทาง หรือที่รู้จักกันในชื่อ GPS Navigator  และการใช้เพื่อติดตาม

 ระบบติดตามยานพาหนะ  ขณะที่กำลังขับไปบนถนน ตามเส้นทางต่างๆ ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาพูดถึง GPS Tracking  ว่าเจ้าตัวนี้ อย่างไรบ้าง ใครสนใจหรืออยากจะ ติดตั้ง gpsรถยนต์ ลองอ่านบทความนี้เพื่อเป็นความรู้ก่อนได้เลย เป็นอย่างไรและสามารถ ช่วยป้องกันรถหายได้       แบบเรียลไทม์ที่ผู้ใช้งาน สามารถติดตามยานพาหนะ

8 เหตุผลที่ควรเลือกใช้บริการ GTS​
ติด GPS รถยนต์
ประสบการณ์มากกว่า 8 ปี
การันตีด้วยประกาศนียบัตรมากมาย
ทีมวิศวกรชั้นนำระดับประเทศ
พัฒนาซอฟต์แวร์ระบบโลจิสติกส์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
Call Center 24 ชั่วโมง
โทรกลับหาลูกค้าทุกสายหากคู่สายเต็ม
ศูนย์บริการมืออาชีพมากกว่า 50 จังหวัด
ให้ลูกค้ามั่นใจสามารถเข้าแก้ไขได้ทุกที่
ผ่านการรับรองกรมการขนส่ง
ออกใบรับรองได้ภายใน 1 ชั่วโมง
รับประกันอุปกรณ์ตลอดอายุการใช้งาน
ภายใต้สัมปทาน 3G
โปรแกรมใช้งานง่ายเพียง 2 คลิ๊ก
ตรวจสอบข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
บริการหลังการขายดีเยี่ยม
พูดคุยเป็นกันเองไม่ทอดทิ้งลูกค้า

 

สำหรับ GPS คืออุปกรณ์ที่รับข้อมูล จากดาวเทียม เพื่อแสดงตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของตัวอุปกรณ์และส่งผ่านข้อมูลที่อยู่ของ GPS ไปยังเครื่องรับสัญญาณปลายทาง เช่น สมาร์ทโฟน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้งานตรวจสอบตำแหน่งปัจจุบันของตัว GPS ได้ โดยเฉพาะการเอาไว้ ติดตามรถยนต์ รถบรรทุก รถมอเตอร์ไซต์หรือรถไถ

เพื่อป้องกันปัญหาโจรกรรม ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากและใช้กันอย่างแพร่ หลายทั้งประชาชนและรถประจำ ตำแหน่งของบุคคลสำคัญ การติดตั้งผู้ใช้งานจะสามารถเช็ค ตำแหน่งรถของคุณผ่าน ทางสมาร์ทโฟนหรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที ซึ่งอุปกรณ์นี้จะส่งสัญญาณ เตือนทุกครั้งที่มีการเปิด ประตูรถหรือสตาร์ทรถ รวมทั้งเมื่อเกิดการโจรกรรมอย่างการทุบกระจก

โดยจะส่งสัญญาณมายังสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อของคุณในทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เพราะฉะนั้น ใครที่กังวลความปลอดภัยของ ทรัพย์สินอย่างรถยนต์ การติดตั้ง GPS ติดตามรถ ถือเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว

GPS ติดตามรถ จะทำการจับสัญญาณ ละดักฟังเสียงภายในรถยนต์ ซึ่งสามารถเช็คตำแหน่งต่างๆและส่งภาพไปใน สมาร์ทโฟนของคุณได้ อีกทั้งยังสามารถรองรับได้หลายเลขหมาย สำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนมากกว่า 1 เครื่องหรือ 2 ซิมการ์ด ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะใช้เลขหมายใด GPS

 

ติดตามรถก็สามารถส่งสัญญาณเตือน

พร้อมรูปภาพไปยังมือถือของคุณได้ แถมยังใช้งานได้ทั้งภายในรถ และพกพาออกไปนอกรถได้อีกด้วย ไม่ว่ารถของคุณจะอยู่ใกล้หรือไกล ก็รู้ความเคลื่อนไหวได้ในทันที

เมื่อได้ GPS ติดตามรถ ใครที่กลัวว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ตัดสายไฟภายในรถยนต์จะไม่สามารถทราบได้ ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ระบบ GPS จะส่งการแจ้งเตือนในทันที นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

สำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง นอกจากนี้ ไม่ว่าจะสตาร์ทเครื่องยนต์หรือดับเครื่องยนต์ ก็สามารถสั่งการจากมือถือได้ เพราะฉะนั้น หากเกิดการโจรกรรมรถยนต์  เจ้าของรถสามารถใช้วิธีนี้สั่งการได้เช่นกัน

ผู้ใช้งานสามารถเช็คดูประวัติการใช้งานย้อนหลังได้ โดยเช็คจาก เมมโมรี่ของ GPS ติดตามรถ ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าเครื่องมือ นี้จะสร้างความอุ่นใจและความปลอดภัยให้กับรถยนต์ของคุณได้อย่างดี แม้ทุกวันนี้รถยนต์ส่วนใหญ่จะมี

การติดตั้งสัญญาณกันขโมยไว้ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่รอดพ้นจากมิจฉาชีพได้ หากมีระบบความปลอดภัยอย่าง GPS ติดตามรถ ก็นับว่าเป็นการเสริมสร้างความปลอดภัยที่ดีกว่าและเหนือกว่ามาตรฐานความปลอดภัยแบบทั่วไป

GPS ติดตามรถ จะช่วยแจ้งให้ทราบว่ารถยนต์ ของคุณในตอนนี้ อยู่ในละติจูดไหน ลองติจูดใด ใช้ความเร็วเท่าไร การใช้งานครั้งล่าสุดหรือการใช้งานแต่ละครั้งอยู่ในวันและเวลาใด เจ้าของรถสามารถเช็คผ่านมือถือได้อย่างสบาย

ไม่ว่าจะเป็นกลางวัน กลางคืนก็เช็คได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดการโจรกรรม จึงทำให้การติดตามรถสามารถทำได้อย่างรวดเร็วหรือใครที่อยากทราบว่าแฟนคุณกำลังขับรถแล่นไปที่ไหนก็สามารถเช็คได้เช่น หากเกิดการออกนอกพื้นที่ก็ทราบได้ทันที

นอกเหนือจากการป้องกัน การถูกโจรกรรมรถยนต์แล้ว GPS ติดตามรถ ยังช่วยป้องกันการทุจริตได้อีกด้วย กล่าวคือ ใน GPS บางรุ่นจะสามารถตรวจสอบระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและสรุปการจอดของยาพาหนะทั้งหมดได้ ซึ่งในกรณีนี้ ใครที่นำรถไปซ่อมหรือเข้าอู่รถยนต์ที่ไหน ก็ตรวจเช็คได้ว่าน้ำมันยัง เหลือเท่าเดิมหรือไม่

พนักงานนำรถไปขับเล่นที่ไหน ก็สามารถทราบได้ ทันทีจากเจ้าตัวนี้ ซึ่งทุกวันนี้ หากใครดูข่าวจะเห็นปัญหานี้อยู่มาก เช่น น้ำมันรถหายไปไหน ทำไมอะไหล่รถไม่เหมือนเดิม เป็นต้น การป้องกันเรื่องนี้เอาไว้ ก่อนเกิดเหตุน่าจะ เป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ตอนนี้กำลังนิยมและมาประยุกต์ใช้ ในภาคขนส่ง รวมไปถึงรถยนต์ส่วนบุคคลอย่าง GPS Tracking System มีทั้งแบบใช้เซิฟเวอร์ (เสียค่าบริการรายเเดือน) แบบ SIM Card เพื่อทำงานร่วมกับสัญญาณโทรศัพท์ หรือเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ก็มีระบบการทำงาน 2 แบบเช่นกันคือ

แจ้งตำแหน่งผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ที่สามารถดูตำแหน่งได้แบบเรียลไทม์นั้นจะมีราคาสูง (หลักหมื่นบาท) รวมถึงต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือนให้กับผู้ให้บริการ (เซิร์ฟเวอร์) ด้วย ส่วนใหญ่จึงนิยมใช้ในรถเชิงพาณิชย์ รถฟลีทขององค์กร หรือไม่ก็รถราคาแพงเพราะมีฟีเจอร์อื่น ๆ ให้เลือกใช้งานเพิ่มเติมด้วย

ข้อดีคือราคาถูกกว่า  รวมถึงไม่มีค่าบริการรายเดือน จึงนิยมติดตั้งในรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ทั่วไป เพราะเพียงพอต่อความต้องการ เช่น แจ้งตำแหน่งกรณีรถหาย เป็นต้น
เมื่อต้องการทราบตำแหน่ง

 

ของรถแค่ส่งข้อความผ่านมือถือเพื่อให้

GPS Tracker แจ้งพิกัดกลับมา ซึ่งผู้ใช้จะมีค่าบริการในการส่งข้อความ  ตามการใช้งานที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น

ส่วนจะเลือก SIM Card แบบรายเดือนหรือเติมเงิน ก็แล้วแต่สะดวก แต่ถ้าเลือกแบบเติมเงินก็ต้องไม่ลืมเพราะเมื่อ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ GPS Tracker ก็ไร้ประโยชน์และไม่สามารถตรวจสอบตำแหน่งได้

เราค่อยๆ เริ่มเห็นความสำคัญ เกี่ยวกับเรื่องของ GPS มากขึ้นเรื่อยๆ ดังประโยชน์ที่หลาคนพอจะรู้กันแล้ว นั่นคือสิ่งที่ทำให้ความสำคัญของการนำ GPS ติดรถ กลายเป็นเรื่องที่ไม่ใช่แค่ความพึงพอใจของตัวบุคคล หรือองค์กรอีกต่อไป แต่มันยังมีการเริ่มต้น นำเอากฎหมายเข้ามาบังคับใช้แล้วด้วย สมัยก่อนเราอาจคิดว่าแค่นำเอา

ติดรถยนต์ หรือไม่ติดมันเป็นสิทธิ์ของบุคคลๆ นั้น แต่ตอนนี้หากไม่ได้เป็นรถส่วนบุคคล GPS กลายเป็นสิ่งที่กฎหมายเริ่มมอง เห็นแล้วว่าต้องให้ความสำคัญมากกว่านี้อีกหลายเท่า

เพราะเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ กรมการขนส่งทางบกเกิดไอเดีย “มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS” ขึ้น มีการกำหนดให้รถโดย สารสาธารณะ รถลากจูง และรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปต้องทำการติดตั้งระบบ GPS เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถของกรมขึ้นมา

พูดง่ายๆ ก็คือและรถสาธารณะนั่นเอง เชื่อว่าวิธีการนี้จะช่วยในเรื่องติดตามพฤติกรรมการขับรถได้อีกทั้งยังส่งผล ให้ปัญหาเกี่ยวกับอุบัติเหตุ บนท้องถนนลดลงได้ด้วยเช่นกัน

มีสถิติอุบัติเหตุจากรถโดยสารและ รถบรรทุกระบุว่า ปัญหาของอุบัติเหตุเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมเรื่องการขับขี่ ของพนักงานรวมถึงเรื่องของระบบบริหาร จัดการองค์กร อาทิ มีการใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด

ให้พนักงานขับรถเกิน เวลามาตรฐาน ความปลอดภัยส่งผล ให้เกิดความเมื่อยล้า อ่อนเพลีย จนนำมาซึ่ง ความเสียหายต่างๆเมื่อเป็นเช่นนี้ กรมการขนส่งทางบกมองว่ามันคือการยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัย ให้กับระบบการขนส่งสาธารณะ เพื่อความยั่งยืนจึงได้มีการจัดทำโครงการดังกล่าวขึ้นมา เป็นการติดตามพร้อมควบคุม พฤติกรรมทั้งเรื่องการบริหารงานกับบรรดาองค์กรต่างๆ

การควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ของ พนักงานขับรถทุกคนด้วยการใช้ GPS เป็นตัวกลาง มีการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ เข้ากับศูนย์บริหารจัดการการ เดินรถด้วยระบบ GPS ของทางกรมการขนส่งทางบกแบบเรียลไทม์กันเลยทีเดียว มีการบอกรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ชัดเจน เช่น ระดับความเร็ว, ข้อมูลการใช้ความเร็ว, ชั่วโมงในการขับขี่ และตำแหน่งพิกัดของตัวรถตอนนี้ด้วย

 

เชื่อว่าจากการใช้งานสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นตัว

ช่วยสำคัญในการทำให้องค์กรต่างๆ สามารถติดตามพฤติกรรม การขับขี่เอาไว้กำหนดมาตรการเพื่อป้องกัน และลดอุบัติเหตุกันต่อไป อีกทั้งยังเชื่อกันว่าจะใช้เป็น เครื่องมือสำหรับการบริหาร ด้านการขนส่งทางบกเพื่อให้ เกิดเป็นประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย

ในส่วนกรมการขนส่ง ทางบกมีการกำหนด ให้รถโดยสารทุกประเภทและรถตู้ เว้นแค่รถสองแถว, รถหมวด 4 และรถหมวด 1 ภูมิภาค, รถลากจูง และรถบรรทุกขนาดใหญ่ตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป ที่มีการจดทะเบียนใหม่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2559 เป็นต้นไป

ส่วนรถที่มีการจดทะเบียนไว้ก่อนวันที่กำหนด ต้องมีการดำเนินการติดตั้ง ทำการเชื่อมโยงข้อมูล หรือมีการแก้ไขเกี่ยวกับเครื่องบันทึกข้อมูล ตามระยะเวลาอันเหมาะสมที่กำหนดจึงจะสามารถต่ออายุทะเบียนรถได้ ซึ่งรถโดยสารเหล่านี้ทางกรมฯ จะมีการยืดกำหนดระยะเวลาเพื่อดำเนินการของรถแต่ละปะเภท ให้เกิดความเหมาะสมเพื่อองค์กร เองจะได้มีเวลาในการดำเนินงานส่วนนี้ด้วย

 

โดยตอนนั้นมีการประกาศรายละเอียดออกมาดังนี้

  • รถโดยสารสาธารณะ รถลากจูง และรถบรรทุกขนาดใหญ่ตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป ที่มีการติดตั้ง GPS ไว้เรียบร้อยแล้วต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถของกรมการขนส่งทางบกไม่เกินสิ้นปี 2559
  • รถโดยสารสาธารณะที่ยังไม่มีการติดตั้ง gps หากเป็นรถโดยสาร 2 ชั้น มีกำหนดติดตั้งไม่เกินรอบปีภาษี 2559
  • รถโดยสารประเภทอื่นๆ ต้องมีการดำเนินเรื่องการติดตั้งให้เสร็จเรียบร้อยภายในรอบปีภาษี 2560
  • รถลากจูงมีกำหนดติดตั้งภายในรอบปีภาษี 2560
  • รถบรรทุกสาธารณะมีกำหนดติดตั้งภายในรอบปีภาษี 2561
  • รถบรรทุกส่วนบุคคลมีระยะเวลาสำหรับดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยภายในรอบปีภาษี 2562

การติดตั้งลักษณะดังกล่าวจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนมากขึ้นกว่าเดิมค่อนข้างแน่จากมุมมองของกรมฯ

 

สนใจติดต่อ  GeniusGPS

 

woodlawnswapnplay.org