ดาบพิฆาตอสูร

ดาบพิฆาตอสูร

ดาบพิฆาตอสูร

ดาบพิฆาตอสูร หรือ “Kimetsu no Yaiba” เป็นการ์ตูนอนิเมะมีชื่อเสียงจากญี่ปุ่นที่เริ่มเขียนขึ้นทีแรกในปี 2016 แล้วก็ได้รับความมาสม่ำเสมอ จนได้มีการตีพิมพ์ลงนิตยสารรายเดือนชื่อว่า “Shounen Jump” ทำให้ได้รับความนิยมมากเพิ่มขึ้น ดาบพิฆาตอสูร จนถึงจะต้องมีฉบับแปลเป็นภาษาไทยออกมาให้ได้ตามอ่านกัน แล้วก็ในเดือนธันวาคม ปี 2020 ก่อนหน้านี้ก็ได้ทำภาพยนตร์อนิเมะฉายบนโรงภาพยนตร์ โดยใช้ชื่อว่า “ดาบพิฆาตยักษ์เดอะมูฟวี่ ศึกรถไฟสู่นิรันดร์” จนทำให้กระแสของอนิเมะเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆจนถึงล่าสุดเสื้อคลุมของทันจิโร่ ได้ขึ้นแท่นเป็นสินค้าขายดีอย่างเร็ว ส่วนต้นเหตุของเสื้อคลุมที่ว่านี้จะเป็นยังไง และก็มีลักษณะยังไง ไปติดตามกัน ดาบพิฆาตอสูร

ก่อนจะมาอยู่หน่วยพิฆาตอสุรี ถูกช่วยชีวิตไว้โดย ฮิเมจิมะ เกียวเม เสาหลักหินผา

สองญาติวัวโจ คานาเอะ และ ชิโนบุ ในวัยเด็กได้ถูกช่วยไว้โดย ฮิเมจิมะ เกียวเม ในสมัยที่ยังไม่ได้เป็นเสาหลัก จากสถานะการณ์ที่โดนอสูรฆ่าล้างครอบครัวจนถึงต้องเสียบิดาและก็แม่อันเป็นที่รักไป ทั้งสองโอบอุ้มความเศร้าแล้วก็ความตึงเครียดแค้นเพื่อมาขอรับการสอนให้เป็นนักพิฆาตอสุรี เพื่อไม่ให้ผู้อื่นจะต้องเจอพบเห็นเช่นอาทิเช่นตัวเอง

ซึ่งในตอนแรกฮิเมจิมะได้ละเลยต่อคำอ้อนวอนของสองญาติ เนื่องจากว่าไม่อยากให้อารมณ์ชั่ววูบมาแย่งชิงอนาคตที่แจ่มใสของทั้งสองไป ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป อีกทั้งคานาเอะแล้วก็ชิโนบุยังมีความจริงจังดังเช่นว่าเดิม ฮิเมจิมะจึงมอบบททดลองให้ รวมทั้งเมื่อผ่านก็เลยได้ชี้แนะคนดูแลให้กับทั้งคู่ไป

ช่ำชองหัวข้อการปรุงยาและก็เภสัชศาสตร์เพราะบิดาแล้วก็แม่ปฏิบัติงานปรุงยา

เหตุผลที่ชิโนบุสามารถทำความเข้าใจเรื่องยารวมทั้งเภสัชศาสตร์ได้ เป็นเพราะว่าพ่อแม่ของลูกพี่ลูกน้องโคโจทำงานเกี่ยวกับการปรุงยา ทำให้ชิโนบุให้ความสนใจในประเด็นนี้มาตั้งแต่เด็ก

โดย คานาเอะ พี่สาวยังเคยเล่าไว้ว่า ชิโนบุในตอนเด็กนั้นเป็นคนมือไม้กระฉับกระเฉง ชอบเก็บต้นไม้ใบหญ้าในสวนมาเล่นเลียนแบบคนปรุงยา แต่ว่าเทียวไปเทียวมากลับปรุงยาออกมาได้จริง

ไต่เต้าสู่การเป็นเสาหลักแมลง และก็หัวหน้าคฤหาสน์ผีเสื้อ

ภายหลังที่อีกทั้งคานาเอะรวมทั้งชิโนบุได้เข้ามาเป็นสมาชิกของหน่วยพิฆาตอสุรี ทั้งสองได้สร้างคฤหาสน์ผีเสื้อขึ้นมา โดยเป็นสถานที่พักฟื้น ดูแลรักษาพยาบาลต่างๆให้กับสมาชิกหน่วยพิฆาตยักษ์

ซึ่งแรกเริ่มผู้นำของคฤหาสน์ผีเสื้อนั้น คือ วัวโจ คานาเอะ พี่สาวของชิโนบุที่ขึ้นเป็นเสาหลักบุปผาได้ แม้กระนั้นเมื่อพี่สาวถูกฆ่าตายโดยอสูรข้างขึ้นที่ 2 โดมะ ชิโนบุก็เลยเปลี่ยนเป็นหัวหน้าแทนและทุ่มเทฝึกหัดอย่างหนักแล้วก็ไต่เต้าขึ้นมาเสาหลักสุดท้าย

เสาหลักเพียงแต่หนึ่งเดียวที่ไม่อาจจะฟันคออสุรีขาดได้

ชิโนบุ เป็นเสาหลักแห่งหน่วยพิฆาตอสุรีเพียงผู้เดียวที่ไม่สามารถฟันคออสุรีขาดได้ นั่นเป็นเพราะเหตุว่าตัวของคุณค่อนข้างจะเล็กและไม่มีแรงมากพอที่จะใช้ดาบปกติทั่วๆไป จากความเป็นมาพูดว่าชิโนบุนั้น สูง 151 เซนติเมตร รวมทั้งหนักเพียง 37 กิโลกรัมเพียงแค่นั้น

แม้กระนั้นเนื่องจากด้วยร่างกายที่เล็กและไม่มีกล้ามเนื้อมากพอที่จะเหวี่ยงดาบตัดคออสุรี ทำให้ชิโนบุใช้ความปราดเปรียวแล้วก็เร็วเข้ามาตอบแทนกระบวนท่าของตน ทั้งยังได้สกัดยาพิษจากดอกฟูจิและใช้พิษนั้นเสริมความรู้ความเข้าใจเพื่อฆ่าอสูร ซึ่งสัดส่วนสำหรับในการผสมจะขึ้นอยู่กับยักษ์แต่ละตน

เนื้อแท้เคยเป็นคนพูดตรง โผงผาง อารมณ์ร้อน

บุคลิกลักษณะที่จริงจริงของชิโนบุนั้น เราจะเห็นได้ในหนแรกในอนิเมะจากตอนย้อนความ ซึยูริ คานาโอะ ที่จะมีความคิดเห็นว่าชิโนบุมีนิสัยโผงผาง ห้าวหาญ และไม่อ้อมค้อมต่อหน้าต่อตาผู้คนล้นหลาม นั่นคือตัวตนและก็นิสัยที่จริงจริงของเจ้าตัว

เนื่องจากว่าหากแม้ฮิเมจิมะผู้ที่รู้จักกับตัวชิโนบุในช่วงแรกสุดยังเคยพูดว่าชิโนบุเป็นเด็กหญิงผู้ไม่เคยปิดแอบซ่อนความโกรธอันลุกไหม้ดุจดั่งไฟเผา ซึ่งทั้งปวงนี้พวกเราจะเห็นได้ว่าไม่เหมือนกับบุคลิกที่มองเห็นเป็นหลักในทั้งเรื่องดาบพิฆาตอสูร

บุคลิกที่ถอดมาจากพี่สาวผู้ตายเป็นวิถีทางเจตจำนงที่ตกทอด

นิสัยท่าทางของชิโนบุได้แปรไปภายหลังที่ คานาเอะ พี่สาวถูกฆ่าโดยอสุรี ซึ่งชิโนบุได้ถอดท่าทางเสมอเหมือนของคานาเอะมาไว้กับตนเอง ทั้งยังบรรยากาศความเงียบสงบนุ่มนวล อากัปกิริยา กระบวนการพูดจา รอยยิ้ม กระทั่งจิตเมตตาให้อสุรีที่ควรจะเป็นจุดหมายสำหรับในการล่า พูดได้ว่าชิโนบุได้สลับตัวเองให้เปลี่ยนเป็นพี่สาวไปโดยปริยาย

จะเรียกว่าเป็นความเจ็บปวดของคนเป็นน้องสาวก็คงจะไม่ผิดนัก ในดาบพิฆาตอสุรี ตอนปีเสื้อปีกเดียว ได้ชี้แจงความนึกคิดของฮิเมจิมะที่มีต่อชิโนบุที่เปลี่ยนแปลงไปว่า ‘ถ้าเกิดไม่ทำแบบงี้… เจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้เลยเชียวหรือ เจ้าทุกข์โศกเศร้าปานนั้นเชียวหรือ เจ้าปวดร้าวทรมานมากมายแค่นั้นเชียวหรือ’

ความโกรธเคืองโกรธเกรี้ยวและโทสะที่สั่งสมภายในใจตลอดระยะเวลา

กระทั่งในเรื่องราวฉบับมังงะแล้วก็อนิเมะกระบี่พิฆาตอสูร พวกเรายังเคยทราบตัวนำอย่างทันจิโร่ ถามชิโนบุว่า ‘โกรธอยู่เหรอครับผม?’ ด้วยเหตุว่าทันจิโร่มีสัมผัสกลิ่นที่ดีงามรวมทั้งได้กลิ่นความโทสะจากชิโนบุถึงแม้ว่าใบหน้าจะยิ้มอยู่ก็ตาม[br][br]ซึ่งโน่นเป็นความจริงที่ว่าในที่สุดแล้ว วัวโจ ชิโนบุ เป็นหญิงสาวที่เก็บงำความหม่นหมองปนโกรธเกรี้ยวไว้ในหัวใจอยู่เสมอเวลา โกรธเนื่องจากพ่อแม่ถูกฆ่าตาย โกรธเพราะว่าพี่สาวถูกฆ่าตาย โกรธที่คนรู้จักค่อยๆถูกฆ่าไปเพราะยักษ์ ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระนั้นด้วยความเป็นจริงเป็นจังแล้วก็ได้พบเจอกับทันจิโร่รวมทั้งเนซึโกะ ทุกอารมณ์หม่นหมองและก็สว่างไสวก็เลยได้ขัดเกลาให้ชิโนบุเป็นอีกหนึ่งผู้แสดงอันเป็นที่รักของทุกคน

เรื่องย่อของ ดาบพิฆาตอสูร มีที่มายังไง เพราะเหตุใดถึงจะต้องพิฆาตอสุรี?

ซึ่งที่เป็นอย่างงั้นก็ด้วยเหตุว่าจู่ๆวันหนึ่งครอบครัวของทันจิโร่ คนที่เป็นผู้แสดงนำชายของเรื่องได้พบว่าแม่และน้องของเขาอีกทั้ง 3 คนถูกอสูรรังควานจนถึงเสียชีวิต เหลือแค่แต่น้องสาวอย่าง เนซึโกะ ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ว่าก็ดูเหมือนกับว่าการมีชีวิตอยู่ของเนซึโกะนั้นจะไม่ดีเหมือนปกติสักเท่าไหร่ เพราะเหตุว่าทันจิโร่ได้พบว่าน้องสาวสุดที่รักของได้แปลงเป็นอสูรไปแล้ว เขาก็เลยทำทุกวิธีเพื่อช่วยเหลือน้องสาวจากเหล่าอสุรีร้ายให้กลับมาเป็นคนได้ตามเดิม ซึ่งก็ต้องตามลุ้นในดาบพิฆาตอสูร มังงะกันต่อไปว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือน้องสาวของเขาได้ไหม?

เสื้อคลุมกิโมโนดาบพิฆาตอสูร 4 ลายยอดนิยมที่แฟนมังงะควรจะรู้จัก

เสื้อคลุมตาลายรางสีเขียวสลับดำ เป็นเสื้อคลุมที่ได้รับความนิยมเยอะที่สุดและก็ติดตากันมากที่สุด ด้วยเหตุว่าเขาใส่หุ้มไว้เกือบจะอีกทั้งเรื่อง โดยเฉพาะในขณะที่เขาได้เริ่มต่อสู้เป็นครั้งแรกกับ กิยู เสาหลักวารี นักล่าอสูรที่กำลังจะออกเดินทางมานำตัวเนซึโกะไป ในช่วงเวลานั้นเขาได้ก้มลงกราบเพื่อขอร้องไม่ให้กิยูนำน้องสาวที่แปลงเป็นอสุรีไป กิยูก็เลยได้บอกกับทันจิโร่ให้ลุกขึ้นยืนสู้ ด้วยเหตุว่าการก้มลขี้งกราบแบบนี้มันไม่ช่วยอะไร เขาจึงได้เริ่มต่อสู้ จนกระทั่งกิยูได้เล็งเห็นความรู้ความเข้าใจและก็บอกให้เขาไปฝึกฝนวิชาล่ายักษ์กับซากอนจิ

เสื้อคลุมสีฟ้าลายก้อนเมฆ เป็นเสื้อคลุมของทันจิโร่ที่ใส่ตอนผ่านการเลือกเฟ้นเป็นนักล่ายักษ์ ในระหว่างที่เขาเดินทางไปหาซากอนจิเพื่อรับภารกิจถัดไป เป็นภารกิจสำคัญที่จะตัดสินว่าเขาจะได้เป็นนักล่าอสูรเพื่อช่วยเหลือน้องสาวของขาวหรือไม่?

เสื้อคลุมสีส้มลายสามเหลี่ยมเล็กสีขาว เป็นเสื้อคลุมของเซ็นนิตสึ เพื่อนซี้ร่วมรุ่นของทันจิโร่ นักแสดงที่ทำให้หลายท่านหลงใหลในคาแรกเตอร์ของเขา เพราะเรียกรอยยิ้มได้อยู่บ่อยๆ

เสื้อคลุมสีชมพู เป็นเสื้อคลุมของเนซึโกะ น้องสาวของทันจิโร่ที่สวมให้เห็นกันทั้งยังเรื่อง อีกทั้งขณะที่กำลังต่อสู้กับยักษ์และก็เวลาที่ซ่อนตัวอยู่

5 เหตุผลที่ทำให้คนหลงใหลดาบพิฆาตอสูร มังงะเรื่องนี้

1. ความตั้งใจรวมทั้งความแน่แน่วของทันจิโร่ กว่าจะได้เป็นนักล่ายักษ์เขาจำต้องใช้เวลากว่า 1 ปีเต็ม แล้วก็ยังจำต้องฝึกฝนวิชาปราญอีกครึ่งปี แม้กระนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้ มีความตั้งอกตั้งใจและก็แน่วแน่ที่จะฝึกซ้อมจนกระทั่งจบกระบวนวิชาให้ได้

2. ได้เห็นความรักรวมทั้งความเสียสละที่เขามีให้กับน้องสาว เพราะว่าความรักที่เขามีต่อน้องสาวก็เลยทำให้เขาทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยทำให้น้องสาวของเขากลับมาเป็นคน ไม่ว่าจำเป็นจะต้องแลกเปลี่ยนมาด้วยอะไรก็ตาม

3. หมั่นศึกษาและฝึกวิชาอยู่เสมอ ถึงแม้ทันจิโร่จะมีความรู้และมีความเข้าใจสำหรับการสูดกลิ่นแม้กระนั้นก็ยังหมั่นศึกษาและก็ฝึกฝนวิชาปราณในกระบวนท่าต่างๆอยู่เสมอ

4. ไม่ยอมแพ้ แม้ว่าจะสู้ไม่ได้ แม้ในเวลาที่ดาบของเขาหักลงขณะสู้กับอสุรีแต่ว่าเขาก็ไม่ยอมแพ้และคิดหาวิธีเพื่อต่อสู้ แม้เวลานี้เขารู้สึกตัวดีว่าสู้ไม่ได้ แล้วก็ต้องตาย แม้กระนั้นก็ไม่ยอมแพ้

5. ทำประโยชน์เพื่อคนอื่น เขาไม่ได้ฝึกฝนวิชานักล่ายักษ์เพื่อช่วยน้องสาวเพียงคนเดียว แต่ว่ายังช่วยเหลือคนอื่นๆด้วย

เครือญาติอุบุยาชิกิ หัวหน้าองค์กรนักล่าอสุรี

อุบุยาชิกิ คางายะ – อายุ 23 ปี ผู้นำเครือญาติอุบุยาชิกิ และเป็นผู้นำขององค์กรนักล่าอสูร เป็นชายหนุ่มที่สุขุมใจเย็น มีไหวพริบ มักมีรอยยิ้มอยู่ตลอด เป็นศูนย์รวมดวงใจของเหล่านักล่าอสุรี โดยเฉพาะพวกเสาหลัก เขายังมองออกว่าเนสึโกะเป็นอสุรีที่มีคุณสมบัติพิเศษเกินกว่าอสุรีทั่วไป

เนื่องมาจากบรรพบุรุษของเขามีสายโลหิตเดียวกับมุซันเมื่อพันปีกลาย การที่มุซันเปลี่ยนเป็นแหล่งกำเนิดของเหล่ายักษ์ เครือญาติของเขาก็เลยถูกคำสาปทำให้คนในตระกูลมีลักษณะอาการซึ่งรู้สึกเจ็บเจ็บไข้ร้ายแรงที่รักาไม่ได้แล้วก็มีอายุไม่เกิน 30 ปี (หรือสั้นกว่านั้น) คนภายในเชื้อสายของเขาทุกรุ่นจึงจะต้องรีบสมรสสร้างทายาทเพื่อเครือญาติตกทอดต่อ และตั้งหน่วยงานนักล่าอสุรีเพื่อหาทางจัดแจงมุซันให้ได้เพื่อเป็นการปลดคำแช่ง

คางายะยังคอยไปเยี่ยมทำความเคารพสุสานหลุมฝังศพของนักล่าอสูรทุกคนที่เสียชีวิตบ่อยๆทุกวันตั้งแต่วัยรุ่น จนตราบเท่าลักษณะของการป่วยลุกลามไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว

อุบุยาชิกิ อามาเนะ – อายุ 27 ปี ภรรยาคู่ชีวิตของคางายะ ในขณะที่สมรสกัน คางายะ อายุ 13 ปี ส่วนคุณอายุ 17 ปี ทั้งคู่มีลูก 5 คน อามาเนะเป็นหญิงสาวที่ไม่พูดไม่จา รอดูแลลักษณะการป่วยของสามี ได้รับความเคารพจากเหล่าเสาหลักมากมาย

ที่จริงแล้วเธอเป็นบุตรสาวของตระกูลนักบวชที่เคยเสนอแนะต้นตระกูลอุบุยาชิกิว่าทางที่จะแก้คำสาปแช่งได้เป็นจำต้องจัดการกับมุซัน ต่อจากนั้นเครือญาติของนักบวชก็จะชูลูกสาวให้แต่งงานกับคนของอุบุยาชิกิมาทุกรุ่น

อุบุยาชิกิ คิริยะ – อายุ 8 ปี ลูกชายคนโตและก็ผู้สืบทอดของตระกูลอุบุยาชิกิ (แล้วก็เป็นลูกคนกลางจากห้าคน) มักแต่งตัวด้วยกิโมโนแบบเพศหญิง (ในรูปเป็นคนขวานะเอ้อ) เคยเจอกับพวกของทันจิโร่ในการสอบคราวสุดท้าย ถึงแม้ยังเด็กมากมาย แต่ว่าเขามีจิตใจอดทน และไม่หวาดหวั่นต่อการเป็นผู้สืบทอดที่จะจำต้องแบกรับภาระของเชื้อสายสำหรับการนำหน่วยงาน

อุบุยาชิกิ คานาตะ, อุบุยาชิกิ นิชิกะ, อุบุยาชิกิ ฮินากิ, อุบุยาชิกิ ปะทุอินะ – ลูกสาวทั้งยังสี่คน

อสูรที่ไม่ทำร้ายมนุษย์

ทามาโยะ – หญิงสาวที่เป็นหนึ่งในอสุรีไม่กี่ตัวที่เลือกจะใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบในสังคมมนุษย์ ทามาโยะ เป็นคนจิตใจอ่อนโยน มีความเห็นหัวใจในเคราะห์กรรมของญาติพี่น้องทันจิโร่แล้วก็เนสึโกะมากมาย

ไม่มีใครรู้อายุที่แจ่มแจ้ง ข้อมูลที่เผยออกมาคือ ทามาโยะยุคยังเป็นมนุษย์ มีอาการป่วยร้ายแรง ขณะนั้นเองที่มุซันเผยตัวออกมา เธอจึงรับข้อเสนอจากมุซันที่จะเปลี่ยนร่างคุณเป็นอสุรีเพื่อรักษาชีวิตไว้ แม้กระนั้นภายหลังแปลงเป็นอสูร เธอก็ไม่มีสติแล้วก็ฆ่าสามีแล้วก็ลูก ภายหลังเธอฟื้นกลับมา แล้วก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้น จึงโกรธแค้นมุซันมาก และบากบั่นเป็นอย่างมากที่จะไม่กินเนื้อคน และศึกษาวิจัยแนวทางการทำให้อสุรีคืนกลับเป็นมนุษย์ จุดหมายของคุณคือการโค่นอำนาจมุซันให้ต้องได้

ภายหลังจากเจอกันทันจิโร่แล้ว ทันจิโร่ก็มีการติดต่อกับเธอ โดยจะส่งตัวอย่างเลือดของอสูรที่หนักแน่นไปให้ เธอยังรู้จักกับ อุบุยาชิกิ คางายะ หัวหน้าองค์กรนักล่าอสูร และดูอย่างกับว่าเธอจะรู้จักกับ เกียวเม เสาหลักหินผาด้วย

ยาชิโร่ – ชายหนุ่มยักษ์ที่ติดตามทามาโยะ อายุโดยประมาณ 200 ปี ปากหมาระดับ S เจอหน้าพวกทันจิโร่และเนสึโกะคราวแรกก็ฉะกันแล้ว เขารักและเชิดชูทามาโยะระดับสูงสุด ไม่ค่อยชอบที่ทามาโยะแสดงความใจดีต่อพวกทันจิโร่ เพราะเหตุว่ากลัวว่าทามาโยะจะลำบาก แต่ว่าวันหลังด้วยภาวะจำยอมก็จำเป็นต้องมาร่วมมือกับพวกทันจิโร่

 

HomePage