หนังฝรั่ง โรแมนติก คอมเมดี้ หนังเกาหลี ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ดูหนังใหม่

หนังฝรั่ง โรแมนติก คอมเมดี้ หนังมาสเตอร์ หนังใหม่ เต็มเรื่อง

หนังฝรั่ง โรแมนติก คอมเมดี้ ด้วยเหตุว่าเป็นเพศหญิงตัวผู้เดียว มาโกะก็เลยเป็นส่วนประกอบอันพอดีของหญิงที่ปรารถนาความรักจากใครบางคนมาดูแล แต่ว่าก็จะต้องแข็งแกร่งและก็ดูแลตนเองให้ได้ เสมือนสายฟ้าและก็ต้นไม้ดอกไม้รวมกัน รวมทั้งความฝันของคุณ เป็นเพียงแค่อยากได้อยู่อย่างยั่งยืนด้วยตัวของตนในร้านค้าดอกไม้เล็กๆของตนเอง ซึ่งโน่นเป็นความอดทนที่คุณต้องการจะได้ซักเสี้ยวหนึ่งของคุณฮารุกะมาไว้กับตัว

ซึ่งมันตรงกับความฝันของฮอกอาย ที่ก็ต้องการจะมีร้านค้าเล็กๆเป็นของตนเองแบบเดียวกัน หนังฝรั่งโรแมนติก คอมเมดี้ แล้วก็ทั้งสองก็ถูกชักจูงด้วยเรมเรส ที่อยากให้ยอมทอดทิ้งความฝันนั้นออกมาจากหน้าที่ ฮอกอายจำต้องทอดทิ้งความฝันเพื่อเดดมูน ส่วนมาโกโตะ ก็จำเป็นต้องทอดทิ้งมันให้กับการเป็นอัศวินเซเลอร์ แต่ว่าอันที่จริงแล้วมันไม่จำเป็นที่ต้องเลือก มนุษย์เราสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนรวมทั้งความฝันไปพร้อมเพียงกันได้เช่นเดียวกัน

แน่ๆว่า American Underdog ก็เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จสไตล์หนังประวัติอเมริกันคะๆที่โชยกลิ่นมาฟุ้งตลอดทั้งเรื่อง หนังแทบจะไม่มีอะไรที่หวือหวาอะไรออกมาจากในทุกส่วนประกอบ การเล่าเรื่องก็นับว่าเรียบง่ายและไม่ได้ใส่ร้ายป้ายสีเด่นอะไร แต่ว่าได้ใช้ความทรงประสิทธิภาพในเรื่องราวของหนังนั้นเป็นกำลังขับเขยื้อนรวมทั้งส่งเสริมในสามารถเกื้อกูลตัวหนังไปได้ค่อนข้างจะอิ่มเอมตลอดทั้งเรื่องด้วยดี

สิ่งที่เด่นอย่างชัดเจนที่สุดจาก Sin City มาจนกระทั่ง Sin City: A Dame to Kill For ย่อมหนีไม่พ้นสไตล์ภาพอันเป็นลักษณะพิเศษต่างจากหนังทั่วๆไป ภาพถ่ายขาวดำคอนทราสต์จัดจ้าแต้มบางจุดเป็นสีสันแสบตาราวกับเป็นภาพที่หลุดมาจากการ์ตูนคอมไม่ก ที่ถูกทำให้ขยับเขยื้อนผ่านออกแบบช็อตที่ใกล้เคียงไปกับการเคลื่อนไหวแบบคอมไม่กด้วยเหมือนกัน ทำให้เมื่อล่วงมากมายว่าเกือบจะทศวรรษนับตั้งแต่ที่ได้สร้างการเกิดฮือฮายอดเยี่ยมในหนังคัลท์ขึ้นแท่น หนังอย่าง Sin City ถูกจำในด้านสไตล์ภาพมากยิ่งกว่ารายละเอียดของตัวหนังเองด้วยไป

รายละเอียดทั้งคู่ภาคของหนัง เกี่ยวกับฝูงคนดิบในเมืองบาปที่เหล่าผู้แสดงต่างมีพบเจอชะตาชีวิตที่เต็มไปด้วยความไร้มนุษยธรรม ความร้ายแรง ความคลั่งไคล้ ความรัก การสิ้นไป การแก้เผ็ด ความเป็นความตาย หนังผูกโยงหน้าที่ผู้แสดงต่างๆเข้าด้วยกันโดยขับเน้นย้ำจิตใจอันดำมิดหมีวิปริตของผู้แสดงพวกนั้นออกมาอย่างเสียดเย้ยซึ่งนับว่าเป็นคุณลักษณะเด่นด้วยกันของสองผู้กำกับ Frank Miller แล้วก็ Robert Rodriguez โดยรายแรกเป็นนักประพันธ์คอมไม่กชื่อก้องที่เป็นเจ้าของผลงาน Sin City เวอร์ชั่นคอมไม่ก โดยทั้งคู่ตกลงใจที่จะอาจเรื่องราวในคอมไม่กไว้ให้บริบูรณ์ที่สุดในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ นี่บางทีอาจเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้สไตล์ภาพแบบคอมไม่กกลายเป็นเส้นโลหิตใหญ่ที่หล่อเลี้ยงหนังทั้งยังเรื่องไว้

เมื่อจำเป็นต้องแบกภาระการเป็นหัวหน้าอัศวิน การเปลี่ยนร่างมิได้ ก็เลยแปลงเป็นสิ่งที่คุณเจ็บ รวมทั้งรู้สึกราวกับว่าตนเองจะไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่นั้นได้อีกแล้ว ยิ่งมาพบสหายๆเอ่ยถึงพี่ๆอัศวินรอบนอกที่ไม่อยู่อีกแล้ว ก็ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกว่าตัวคุณเองไม่อาจจะเป็นหัวหน้าได้ดิบได้ดีอีกต่อไป ไม่นะก็เลยต้องการจะหนีออกไปจากภาระหน้าที่ที่คุณอุตส่าห์ทำนี้มาก่อนทุกคน ไปพบสิ่งที่คุณก็ต้องการจะทำมาตั้งนานแล้วทีนี้คือการออดิชั่นเป็นไอดอล แต่ว่าเมื่ออมาชอนเนควาเต็ดไม่เหลือลูกน้องในเมือแล้ว

รีวิว Skater Girl หนังสร้างแรงใจ

เมื่อสเก็ตกระดานให้อะไรกว่าที่คิด ไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวสารประเด็นการจับผู้ประกอบกิจการพ่อค้าที่ขายสเก็ตกระดานออนไลน์ ต่อเนื่องมาจาก ตามราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศให้ สเก็ตกระดาน โรลเลอร์สเก็ต เป็นผลิตภัณฑ์ควบคุม ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองปกป้องลูกค้า พุทธศักราช2522 แต่ว่าเนื่องมาจากพ่อค้าคนมีชื่อเสียงกล่าว นำผลิตภัณฑ์มาขายโดยไม่มีการเขียนทะเบียนขอรวมทั้งแปะฉลากให้ถูก จนถึงเปลี่ยนเป็นดราม่าในเครือข่ายสังคมใหญ่มหึมา

อย่างไรก็ตาม Sin City: A Dame to Kill For ก็ยังมีความน่าดึงดูดใจเมื่อพิจารณาถึงความเด่นแตกต่างกันของสไตล์หนัง เมื่อเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆสำหรับผู้ที่เคยมอง Sin City และก็ยังได้ติดตามเรื่องราวของผู้แสดงหลักที่น่าดึงดูดหลายๆตัวที่ต่อเนื่องมาจากภาคแรก แล้วก็เสน่ห์เริ่มแรกของตัวหนังที่ยังเพียงพอทำให้หายนึกถึงอยู่บ้างถึงแม้บางทีก็อาจจะมิได้เต็มที่มากสักเท่าไรนัก

รวมทั้งผู้ที่ไม่เคยมอง Sin City มาก่อนก็มิได้คือปัญหาสำหรับในการได้เปิดรับหนังที่สามารถเรียกได้เลยว่ามีสไตล์ภาพแล้วก็การเล่าอันมีเอกลักษณ์เยอะที่สุดเรื่องหนึ่ง ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่าสุดท้ายแล้วเสน่ห์รวมทั้งความเด่นของหนังสไตล์จัดประเด็นนี้ หนังฝรั่ง โรแมนติก คอมเมดี้ ก็ยังคงไม่ใช่สิ่งที่เผชิญได้ง่ายนักในตลาดหนังที่นับวันยิ่งมีแม้กระนั้นความเล่าซ้ำซ้ำซากจนถึงแทบจะแยกไม่ออกว่ามันแตกต่างอย่างไร

ก็เลยใช้การออดิชั่นนี้เป็นตัวชี้เป็นชี้ตายใส่ผู้ที่ใช้การไม่ได้ที่สุดในกรุ๊ป แต่ว่าเมื่อไม่นะพบกับการออดิชั่นที่ใช้เด็กเป็นพนัน ความรู้สึกของการเป็นคนมีความรับผิดชอบ การควรจะเป็นอัศวิน ก็เลยกลับขึ้นมา ถึงแม้คุณจะไม่มีพลังเลยก็ตาม ก่อนที่จะคุณจะศึกษาค้นพบว่าการที่คุณไม่มีพลัง เป็นเนื่องจากคู่คิดของคุณไม่พร้อม เป็นด้วยเหตุว่าคุณไม่เคยปลดปล่อยความกลุ้มใจ หรือความรู้สึกให้สหายๆได้ทราบเลย

แม้คำว่า “ภาพงาม” เป็นคำที่พวกเราใช้นิยามหนังบางเรื่อง ราวกับที่ Sin City ถูกจำในด้านงานภาพที่เด่นเกินส่วนประกอบอื่นๆของหนัง ผิวเผินเสมือนเป็นคำกล่าวชมเชย แม้กระนั้นก็ดูเหมือนทำให้เกิดโทษและส่งผลเสียรวมทั้งไม่ดีต่อค่าในด้านอื่นๆของตัวหนังไม่น้อย ด้วยเหตุว่าความน่าดึงดูดใจด้านเรื่องราวที่ขับเน้นย้ำด้านมืดของนักแสดงผ่านพล็อตที่มีส่วนประกอบน่าดึงดูด มันใส่รับแล้วไปได้เวิร์คมากมายๆกับสไตล์ภาพถ่ายขาวดำจัดจ้า หมองมืด อาบปกคลุมด้วยทิวภาพซอกมุมอับอันเน่าเฟอะของเมืองคนบาปที่ฝนตกตลอดระยะเวลา

ความร้ายแรงกับการสาดกระเด็นของเลือดแดงฉานตัดกับภาพถ่ายขาวดำจัด นักแสดงบริสุทธิ์ไม่รู้เดียงสาผู้ผิดกลืนเข้ามาเป็นประชากรเมืองคนบาป ที่มีชีวิตชีวาผ่องใสเช่นมนุษย์ธรรมดาตัดกับนักแสดงย้อมขาวดำอื่นๆกลุ่มนี้เป็นการประสานกันกลมกลืนของรายละเอียดและก็สไตล์ภาพที่แยกจากกันมิได้ อีกทั้งขยับขยายขอบเขตความน่าจะเป็นของภาพยนตร์แล้วก็ประสบการณ์ของผู้ชมให้กว้างขึ้นไปอีกด้วย

แม้กระนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอยู่เช่นเดียวกันเมื่อ Sin City: A Dame to Kill For ที่จับเอาส่วนประกอบทั้งสิ้นของความดีที่เคยทำเอาไว้ภายในภาคแรกมาใช้ กลับมีคุณภาพที่ลดหลั่นลงไปพอเหมาะพอควร ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่ถูกตัดทอนเสน่ห์ลงไป บทที่ผูกเรื่องราวได้ไม่กลมกล่อมละมุนละไมนัก รวมทั้งงานภาพที่นอกเหนือจากการที่จะไม่มีอะไรแปลกใหม่แล้วยังมีหลายๆซีนที่ทำเป็นปกติซ้ำจากจำเจเหลือเกิน

ทั้งยังการที่ยังผูกรายละเอียดเล็กน้อยอ้างอิงกับภาคแรกแล้วก็หนังก็มิได้รับรองเรื่องในอดีตมากพอสำหรับผู้ที่ไม่เคยมองภาคแรกก็ดูเหมือนจะคือปัญหาด้าคอยรรถยนต์รสอยู่ไม่น้อย การปีนไปสู่ไคล์แมกซ์ของแต่ว่าล่ะนักแสดงก็ดูเหมือนคลายเงื่อนไปไม่สุด กล่าวโดยรวมแล้วมันช่างให้ความรู้ความเข้าใจสึกที่ “ไม่อิ่ม” เอาเสียเลยข้างหลังมองจบ พาเอามนต์ขลังความคัลท์ที่เคยทำไว้เลือนรางไปไม่น้อย

“สตีเฟ่น คิง” นักเขียนนิยายระดับนานาชาติ บุคคลที่พวกเราชอบได้มองเห็นชื่อของเขา ถูกใช้เป็นเครดิตบนภาพยนตร์ทั้งหลายแหล่ โน่นก็เนื่องจากว่าผลงานของเขานั้น ได้ถูกรังสฤษฏ์ออกมาในลักษณะของแผ่นฟิล์มถ่ายรูปมาแล้วมากยิ่งกว่า 30 เรื่อง! รวมทั้ง The Dark Tower นี้เอง เป็นหนึ่งในผลงานที่สร้างชื่อสูงที่สุดชิ้นหนึ่งของเขา ที่ปัจจุบันนี้ก็ได้แปลงเป็นฉบับภาพยนตร์เป็นที่เป็นระเบียบ พร้อมได้ดาราหนังมากมายความสามารถทั้งคู่อย่าง Idris Elba และก็ Matthew McConaughey มารับหน้าที่เคลื่อนให้ภาพยนตร์ประเด็นนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานร่าเริงระดับบลอกบัสเตอร์!

ภายหลังจากจบการศึกมุเก็น เหล่าอัศวินวงนอกที่ดำรงชีวิตอยู่กับหน้าที่รับผิดชอบอัศวินมาตลอด ด้วยเหตุว่าทำความฝันของตนเสร็จกันหมดแล้ว อีกทั้งการเป็นนักแข่งรถ F1 การเป็นมือสีไวโอลิน หรือการเป็นนักวิทยาศาสตร์ หรือการมาสร้างครอบครัวร่วมกันอย่างแฟนกัน ก็ทำสำเร็จหมดแล้ว การเสนอคำถามเกี่ยวกับความฝันก็เลยเกิดเรื่องยากของทั้งยังสามคนมากมาย การดูแลโฮตารุก็เลยเป็นอย่างเดียวที่ยึดโยงอีกทั้งสามไว้

และก็แปลงตัวมิได้ ยิ่งเป็นการการันตีว่าหน้าที่รับผิดชอบได้หมดลงแล้ว แต่ว่าโฮตารุ ที่ได้รับการปลุกให้ตื่นโดยอัศวินด้านในตัวคุณ คุณได้แนะนำอีกทั้งสามผู้ที่อุปถัมภ์คุณมาว่า ไม่จำเป็นที่ต้องอยู่อย่างสันโดษอีกแล้ว แม้อีกทั้งสี่ได้เคยผูกสัมพันธ์ไว้กับคนอื่นพวกเราก็มีสิทธิที่จะเลือกทางของตน และก็เริ่มชะตาใหม่ เปลี่ยนเป็นอัศวินที่ไปรวมกลุ่มต่อสู้กับผู้อื่นได้ แม้ว่าจะเป็นการเลือกที่ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็ตาม ขอเพียงแค่ความเก่งกล้าที่จะเปลี่ยนเพียงแค่นั้น

รีวิวหนังโรงThose Who Wish Me Dead

ผู้คนเหล่านั้น ต้องการให้ฉันตาย เข้าฉายในอเมริกาตั้งแต่ตอนพ.ค. แม้ว่าจะยังเป็นช่วงๆที่โรงภาพยนต์ในอเมริกายังไม่รื่นเริงนัก แม้กระนั้นเหตุการณ์ในอเมริกานั้นแตกต่างกันในประเทศไทยราวฟ้ากับเหว เมื่ออเมริกาผู้คนได้ฉีดยาประสิทธิภาพแล้วก็ภาครัฐสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้กับราษฎรเพื่อกลับไปใช้วิถีชีวิตแบบเดิมอีกทีย้อนอดีตกลับไป ความหลงละเมอของราชินีพระจันทร์ เป็นการคาดคะเนหวังว่าเซเรนิตี้ บุตรสาวที่พึ่งจะกำเนิดใหม่ จะเปลี่ยนเป็นแสงไฟใหม่ของอาณาจักรพระจันทร์

โดยหลงๆลืมๆความเป็นจริงไปว่า คุณไม่ใช่ผู้ดูแลที่จริงจริงของพระจันทร์มาแต่แรกเริ่ม พระจันทร์มีอีกทั้งด้านสว่างและก็ด้านมืด คุณจำเป็นต้องสารภาพว่าอีกด้านหนึ่งของพระจันทร์ ยังมีราชินีอีกผู้ที่เป็นคู่วัฏจักรของคุณ แต่ว่าถึงแม้นั่นเป็นเรื่องจริง ก็มิได้แปลว่าราชินีพระจันทร์สีขาว จำเป็นต้องยอมโอบรับความมืดมนเข้ามา พวกเราทำเป็นเพียงแค่รักษาความส่องสว่างของดวงดาวในใจพวกเราเอาไว้ เท่านี้ความมืดดำก็ไม่อาจจะผ่านกระจกมาได้แล้ว

“แซคารี ลีวาย” ที่มาสวมบทบาทเป็นตำนานตัวจริงของหนังหัวข้อนี้ ก็จัดว่าแบกรับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบได้ค่อนข้างจะดี เขาสามารถประคับประคองหนังทั้งยังประเด็นนี้เอาไว้เพียงผู้เดียวได้อย่างไม่นักหนาอะไร แม้การแสดงของเขาก็อยู่ในระดับมาตรฐานทั่วๆไป เขาให้การแสดงที่ดีอย่างถูกใจ แต่ว่าไม่มีอะไรที่เด่นออกมาเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าบทราบเรียบของหนังมิได้ส่งให้ไปได้ถึงจุดนั้น เหมือนกันกับ “แอนทุ่งนา แพควิน” ที่นับว่าแปลงโฉมตนเองให้ดังค้างแรกเตอร์ตัวจริงอย่างใกล้เคียง วางใจกับการแสดงของคุณผู้นี้ได้เลย คู่นี้ส่งบทกันไปๆมาๆได้อย่างพอดีทั้งยังเรื่อง

แม้กระนั้นนอกเหนือจากการได้มาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มถ่ายรูปแล้วนั้น นิยายต้นฉบับของ The Dark Tower เอง ก็มีเรื่องมีราวราวล้นหลามรอบกายที่น่าดึงดูดไม่แพ้ตัวภาพยนตร์เลย และก็ด้วยเหตุนั้น Thaiware ก็เลยต้องการจะขอนำเสนอ “5 สิ่งที่น่าดึงดูดของภาพยนตร์ The Dark Tower” แม้กระนั้นจะมีอะไรบ้างนั้น เชิญชวนรับทราบไปพร้อมๆในบทความ (รวมทั้งวิดีโอ) นี้ได้เลยขอรับ!

การจะทำลายกระจกที่ราชินีความมืดดำ เป็นการแต่งตั้งแสงไฟของจิตใจคนทั้งยังระบบสุริยะขึ้นมาใหม่ แล้วก็กำจัดไล่ความมืดมนที่บังแสงอาทิตย์ออกไป ซึ่งผู้เดียวที่ยังไม่มีผลึกอันส่องสว่าง ก็คือมาโมรุนั่นเอง รวมทั้งเมื่อมาโมรุสามารถปลดผลึกโกลเดนคริสตัลออกมาได้เมื่อใด ก็จะเป็นจุดจบของความหลงละเมอ แล้วก็กลับไปสู่โลกเรื่องจริงที่ส่องสว่างด้วยแสงแดด มาโมรุก็จะแปลงเป็นราชาที่ได้รับการป้องกันจากพระอาทิตย์ แล้วก็ความมืดดำก็จะสลายหายไป

แม้ว่าจะเป็นหนังดราม่ากีฬา แม้กระนั้นส่วนประกอบหลักของหนังประเด็นนี้เป็นการเปิดเผยชีวิตมากยิ่งกว่า โดยมีส่วนของกีฬาเข้ามาเป็นเสริม พวกเราจะได้มองเห็นมุมมองการใช้ชีวิตของเพศชายปกติอย่าง เคิร์ต วอร์นอร์ ตั้งแต่แมื่อเขาจริงจังมานะที่จะแปลงเป็นนักอเมริกันฟุตบอลให้ได้ เห็นช่วงชีวิตที่ทุกข์ยากรวมทั้งท้า จุดแปลงและก็การตัดสินใจต่างๆของเขา ที่มิได้โรยด้วยดอกกุหลาบหากแม้สักหนึ่งครั้งเรื่อง แล้วก็ความเกี่ยวข้องของเขากับเมียและก็ครอบครัวที่มั่นคง เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เขาถูกชูให้เป็นคุณบิดาแห่งชาติในอเมริกา

ซึ่งการเลือกระหว่างความฝันนี้ เป็นไปตามจุดมุ่งหมายของตัวร้ายหลักอย่างราชินีเนเฮเเรเนีย ที่อยากเบือนจิตใจของผู้ใต้ดูแล ให้ไปขึ้นอยู่กับราชินีองค์ใหม่ เพื่อที่คุณจะได้แต่งตั้งระบบสุริยะขึ้นเป็นของคุณเอง คุณเลือกที่จะเก็บเมล็ดพันธุ์ดวงดาวของเซเลอร์ควาเต็ตมาไว้กับตัวแล้วขังพวกคุณไว้ใต้เรมเรส รวมทั้งทำให้เซเลอร์ควาเต็ตไม่เชื่อในความฝัน และก็ดำเนินชีวิตอยู่เป็นข้าทาสรับใช้ของคุณ แล้วก็หวังว่าถ้าคุณชนะสงครามนี้ คุณจะใช้เซเลอร์ควาเต็ตเป็นอัศวินในกลุ่มของคุณถัดไป

ตามที่กล่าวเอาไว้ Kimi จัดได้ว่าเป็นหนังที่มีข้อความสำคัญเสียดสีสังคมเอาไว้ได้แสบสันต์พอสมควรอยู่นะ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตพร้อมไปกับเทคโลโนยี ที่บางคราวเทคโนโลยีก็ยังไม่อาจจะประมวลข้อมูลได้รู้ทันได้พอกับสมองของมนุษย์ แต่ความเห็นแก่ได้แล้วก็ความทะเยอทะยานของคนเรานี่แหละที่สามารถแปรผันเป็นวัสดุอุปกรณ์บ่อนทำลายความเป็นคนรุ่งเรืองในระดับยอดเลย

จากหนังสารคดีเรื่องนี้ทำให้เห็นได้ชัดขึ้นมาว่า Titanic, Abyss, Avatar และผลงานอื่นๆเกิดจากตัวตนของผู้กำกับ James Cameron จริงๆความคลั่งไคล้สำหรับการพิจารณาใต้มหาสมุทรลึกเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดที่เขาทำไททานิกด้วยเหตุว่าปรารถนาดำลงไปดูซากเรือของจริงด้วยตาตัวเองรวมทั้งถ่ายทอดให้คนทั่วโลกได้ดูอีกสักหนึ่งครั้ง ตอนทำ Abyss เพราะอยากได้สร้างฐานะละครที่ได้ดำตรงลงไปใต้ห้วงมหาสมุทรลึกลับน่าค้นหาโน่น หนังฝรั่ง โรแมนติก คอมเมดี้ จนถึงวันหนึ่งตัวเขาเองคิดต้องการจะทำแบบงั้นบ้าง

มันเป็นการพิสูจน์สิ่งที่ต้องการที่ไม่ใช่แค่ได้ฝันได้บอก แม้กระนั้นต้องท้าทายด้วยชีวิตอย่างกล้าหาญล้นหลามๆทำให้เห็นว่าคนๆหนึ่งจะเสร็จได้จำเป็นต้องเริ่มที่การตัดสินใจใช้ความกล้าเกื้อหนุนความปรารถนาไปได้สุดทางได้มากกว่าหนึ่งอย่าง ซึ่งคำตอบไม่ได้จบที่การเป็นเป็ดที่ครึ่งบินกึ่งหนึ่งลอยน้ำ แต่เป็นนกอินทรีที่ปีกกล้าด้วยขาอันแข็งแรง ทำให้นอกเหนือจากเรื่องราวใน Abyss ที่ประดิษฐ์จากจินตนาการ ในโลกความจริง James Cameron ก็สามารถดำตรงใต้ห้วงมหาสมุทรได้ลึกมากยิ่งกว่าดาราของเขาเสียอีก เก๋มั้ยล่ะ!

โชคดีที่อุซางิน้อยในภาคนี้ได้พบแล้วว่า ไม่ต้องแย่งสามีของแม่ มาเป็นของตัวเองก็ได้ เพราะในอนาคตคุณจะได้พบกับ “คู่แท้” อย่างเฮลิออส ที่แปลงมาเป็นเปกาซัส (แถมรูปโฉมโนมพรรณแท้จริงจริงก็หล่อ) จนกระทั่งสติเงินของนังหนูอุซางิน้อยกระเจิดกระเจิงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แม้ทรงจะมองดูมาดีขนาดนี้ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แววใดๆก็ตามเพิ่มจากภาพยนตร์เรื่องดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว กระทั่งในที่สุดสิทธิ์สำหรับในการสร้างก็หมดลงในปี 2010 รวมทั้งกลายเป็นค่าย Universal Picture พร้อมทั้ง Ron Howard ที่ผลงานสร้างชื่อตอนนั้นเป็นThe Davinci Code ได้สิทธิ์สำหรับในการสร้างไป แต่แล้วโปรเจคนี้ ก็โดนยุบอีกทีขอรับ เนื่องจากดันมีงบประมาณที่เบาๆมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตลอดตอนที่โปรเจคกำลังปฏิบัติงาน

หวนมาพูดถึงภาพรวมของ Sailor Moon Eternal ใน PART 2 ที่ให้เหล่าเซเลอร์ตัวอื่นๆเผยตัว ไม่ว่าจะเป็น ยูเรนัส เนปจูน ดาวพลูโต รวมทั้งแซทเทิร์น ซึ่งกลายเป็นครอบครัว LGBTQ ได้บอกให้เห็นแล้วว่า ในเซเลอร์มูนนั้น มองเหล่าดาราหนังกลุ่มนี้ “ไม่มีเพศ” มาตั้งแต่ไหนถึงแม้ว่าไร ผู้ชมย่อมรับรู้ถึงความเก๋ สมาร์ทของเซเลอร์ยูเรนัสหรือเทนโอ ฮารุกะ ผู้เป็นตัวละครแฟนกับเซเลอร์เนปจูน โดยที่ผู้ชมเองก็ไม่เคยรู้สึกอักอ่วนหัวใจเพราะพวกท่านเป็นตัวละครรักร่วมเพศ การมีอยู่ของสิ่งกลุ่มนี้ในมังงะยุค 90 ก็เลยถือว่าเป็นเรื่องที่ล้ำสมัย ล้ำยุคและจากนั้นก็ให้แด่ท่านค่าของความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน

ตกลงว่าในภาพรวมแล้ว Kimi ก็จัดได้ว่าเป็นหนังตื่นเต้นที่ดูได้สนุกสนาน อาจจะมีจังหวะเฉื่อยๆช้าๆอยู่บ้าง แม้กระนั้นพอเพียงเข้าที่เข้าทางได้แล้วก็นับได้ว่าหนังที่รื้นเริงพอใช้เลย รับประกันด้วยความรู้ความเข้าใจนักสร้างหนังระดับแถวหน้าของฮอลลิวูด ทั้งแทรกสาระสำคัญใกล้ตัวสังคมในเวลานี้เอาไว้รุ่งเรืองอีกด้วย หนังบางครั้งก็อาจจะไม่ได้ยาวล้นหลาม การเล่าเรื่องอาจจะยังไม่กลมกล่อมละมุนละไม แต่ว่าจังหวะต่างๆก็เพลิดเพลินใจได้ในระดับที่ถูกอกถูกใจทีเดียว

บ่อยครั้งที่นักประพันธ์เห็นภาพตัวละครที่เป็นตัวละครเอกบนปกนิยายนี้ผ่านตา ก็รู้สึกอดไม่ได้จริงๆที่จะคิดถึงนักแสดงระดับตำนานอย่าง Clint Eastwood ในหน้าที่คาวบอยมาดเก๋ไม่มีนาม หรือ Man with No Name ในภาพยนตร์สามภาคชื่อเดียวกันนี้อย่าง Man with No Name ไม่ว่าจะทั้งยังรูปหน้า, การแต่งตัว หรือแม้แต่อิริยาบถที่พูดน้อยต่อยหนักอย่างเดียวกันในฉบับนิยายเลยละ ซึ่งข้อพิพากษ์ที่นักเขียนคิดนี้ ดูเหมือนกับว่ามีหลักฐานที่สามารถเชื่อมโยงกันได้อยู่แถมออกมาจากปากของสตีเฟ่น คิงโดยตรงเลยละ โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า Roland Deschain หรือตัวนำในนิยายเรื่องดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เขาได้วาดภาพให้เป็น Clint Eastwood ในฉบับโลกแฟนตาซี

รีวิวหนัง American Underdog

เข้าสู่อันเป็นตำนานของไอ้หนุ่มไก่รองบ่อน มาพบกับหนังดราม่ากีฬาที่คงสร้างความตรึงใจและก็แรงบันดาลใจให้กับผู้ชมได้ไม่น้อย กับเรื่องราวของตำนานผู้เล่นอเมริกันบอลที่ถูกจารึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ชีวิตของเขาน่าสนใจและสามารถเสนอแนะทางให้กับผู้คนจำนวนมากที่สิ้นหวังได้อย่างยอดเยี่ยม แล้วหลังจากนั้นก็โน่นได้พิเคราะห์ออกมาเป็น “American Underdog” ที่เหมือนจะเป็นแค่เพียงเงื่อนดราม่าจับใจธรรมดาแม้กระนั้นปรากฏว่าเมื่อได้ซึมซับไปตลอดทางกลับสามารถทำให้น้ำตาซึมได้ในตอนสุดท้าย

แม้มันจะมีกลิ่นของการอวย James Cameron เองในที ซึ่งหนังทำให้เห็นได้ชัดเจนพอสมควรว่าการตรวจทานในโอกาสนี้มันมีประโยชน์ที่จะก่อให้เกิดผลต่อยอดได้ขนาดไหนที่ศึกษาค้นพบสิ่งมีชีวิตใหม่หลายสายพันธุ์ และก็อาจน้ำไปใช้ตรวจดูพื้นใต้ห้วงมหาสมุทรเพื่อคุ้มครองการสูญเสียจากการเกิดแผ่นดินไหวแล้วก็สึนามิได้นะ แต่ว่ามันก็เป็นการถูกใจที่สมศักดิ์ศรีส่วนตัวสำหรับเรา มันไม่ใช่แค่ความโก้ของการทำตามความฝันตั้งแต่วัยเด็กของเขาให้เป็นจริงแล้ว แต่มันได้ผลดีต่อมวลมนุษยชาติ จุดนี้ขอโอเวอร์อวยเอง

หากว่าเรื่องราวใน Sailor Moon Eternal จะไม่มีอะไรเกินความคาดหมายว่าตอนสุดท้าย เหล่าธรรมมะ ย่อมชนะอธรรม แสงย่อมชนะความมืดมน กรรมวิธีมองโลกของเซเลอร์มูนก็เลยยังคงเป็นการมองอะไรที่เป็นขาวจัด ดำจัด ทั้งหมดทุกอย่างยังถูกพาสเจอร์ไรซ์เป็นมิติแบบเดิมๆสวนกับแนวคิดเรื่องเพศที่ปรากฏอยู่ในมังงะชุดนี้ เข้าใจว่าเพราะเหตุว่าเซเลอร์มูนภาคนี้ถูกปรับแปลงมาจากมังงะต้นฉบับ แม้กระนั้นก็แอบรู้สึกเสียดายไม่ได้ที่ ตอนที่เปลี่ยนไปมุมมองเรื่องการมองความเต็มที่เรื่องความดี ความชั่วนั้นยังเป็นแถวทางมองแบบเดิมๆไปหน่อย

ขึ้นชื่อว่าผู้กำกับภาพยนตร์ สิ่งที่ผู้ชมอย่างเราๆคงจะวางใจแล้วก็ไว้วางใจ เป็นการตกลงใจของพวกเขาในด้านต่างๆของหนัง ไม่ว่าจะขั้นตอนการเสนอเรื่อง, การสั่งคัทเพื่อฉากที่ถ่ายทำที่สุดยอด รวมทั้งการเลือกนักแสดงที่เขาพร้อมจะฝากความหวังเอาไว้ในเรื่องที่สุดซึ่งก็ดูอย่างกับว่า Idris Elba นักแสดงผิวสีคนนี้ จะเป็นตัวเลือกที่ Nikolaj Arcel ผู้กำกับของเรื่อง ให้ความใส่ใจสูงที่สุดเพื่อมารับบท Roland Deschain ตัวละครเอกนักแม่นปืนนี้ หนังฝรั่ง โรแมนติก คอมเมดี้ ที่ในฉบับนิยายนั้น สตีเฟ่น คิงได้ “วางลักษณะสันฐานไว้ให้เป็นชายหนุ่มผิวขาว”

ภาคนี้ได้ “แซม ไรมี” กลับมาถือจับหนังวีรบุรุษอีกครั้ง รวมทั้งแน่นอนว่ามาร์เวลเปิดโอกาสอิสระให้กับเขาได้ประดิษฐ์แล้วหลังจากนั้นก็ตกแต่งจินตนาการซูเปอร์วีรบุรุษในมุมมองของเขาได้กว้างขึ้น และคำตอบที่ออกมานั้นต้องเห็นด้วยว่าเลยล่ะว่า มันอยู่ในทางที่แปลกตาจากหนังมาร์เวลปกติอยู่ด้วยเหมือนกัน ข่าวที่เคยได้ยินมาว่า “จะเป็นหนังที่น่าสยดสยองที่สุดของมาร์เวล” อันนั้นก็มีความรู้สึกว่าคงจริง เนื่องมาจากหนังหัวข้อนี้กล่าวร้ายเขย่าขวัญและสยองขวัญมาเป็นลูกเล่นที่นับว่าเป็นหนึ่งในแนวถนัดของผู้กำกับรายนี้เลย

ถ้าหากผู้ใดที่เคยได้สัมผัสผลงานหนังเขย่าขวัญของ แซม ไรมี จะสามารถดูดซับได้เป็นอย่างดีว่าเขาจับจับเอาเสน่ห์ที่ตรงนั้นเข้ามารวมเป็นหนังมาร์เวลด้วย กลิ่นจากหนัง Evil Dead โชยมา ความน่าสะพรึงกลัวแบบ Drag Me to Hell ก็มีให้แลเห็น ด้วยองค์ประกอบที่กล่าวถึงสายเวทย์แล้วหลังจากนั้นก็มนตร์ต่างๆที่เอามาเป็นแกนหลักในหนังเรื่องนี้ สามารถบังคับวิถีทางความเป็นแอคชั่นกับความเขย่าขวัญเข้าเอาไว้ด้วยกันค่อนข้างจะกลมกล่อมละมุนละไม

เรื่องฝันลมๆแล้งๆของอุซางิน้อย เป็นการได้มีโอรสซักคน มารัก และก็เห็นด้วยคุณในฐานะหญิงที่โตแล้ว ซึ่งคุณเคยมีความรู้สึกว่ามาโมรุในเส้นจักรวาลอดีตสมัย จะเป็นบุตรชายของคุณได้ ถึงแม้ในที่สุด คุณก็จะต้องยอมรับความเป็นจริงว่า มันเป็นไปไม่ได้ มาโมรุเป็นพ่อในอนาคตของคุณ แล้วก็สิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องทำเป็น ปฏิบัติหน้าที่เจ้าฟ้าหญิงพยาบาลแสงจันทร์ต่อจากเซเลอร์มูนให้ยอดเยี่ยม

และก็โน่นถึงจะนำคุณไปพบกับโอรส เป็นที่ยอมรับความเป็นตัวคุณได้จริงๆตามวิถีที่คนฝึกตน เหล่านินจากลายชนิดอีกทั้งสี่ที่สำนักใต้ท่อเพื่อระบายน้ำศูนย์กลางกรุงนิวยอร์คได้ทำความรู้จักรวมทั้ง ‘ลำพอง’ ผู้ชมทั้งรุ่นก่อนแบบใหม่ไปเต็ม ถึงแม้ว่าเป็นแฟนพวกตั้งแต่สมัยเกือบยี่สิบปีให้หลัง หรือพึ่งได้รู้จะกันโอกาสนี้จากภาพยนตร์เรื่อง Teenage Mutant Ninja Turtles ก็จะรักเจ้าเต่านินจาทั้งสี่ได้อย่างง่ายดาย

รีวิวหนัง Along for the Ride ลมรักคืนฤดูร้อน

รักวัยทีนน้ำเสียเคล้าซัมเมอร์ ถึงเวลามาดื่มด่ำกับความรักที่น่าค้นหาอีกครั้ง กับหนังโรแมนติกด้ามจับเอานิยายโรแมนซ์เป็นที่รู้จักมาสร้างเป็นฉบับไลฟ์แอคชั่นใน “Along for the Ride ลมรักคืนฤดูร้อน” ที่แม้ว่าจะมาพร้อมกับสูตรสำเร็จน้ำเสียที่กลิ่นแจ่มกระจ่าง ถึงแม้ในความจำเจกลุ่มนี้ปรากฏว่าหนังหัวข้อนี้สามารถถ่ายทอดออกมาได้ในรสที่กลมกล่อมละมุนละไม เป็นหนังรักย่อยง่าย ถึงรสออกมาจากฝาดไปสักนิดสักหน่อยก็ตาม

หนังแอ็คชั่นทุ่มทุนสร้างมาจากผู้กำกับคนใหม่ โจนาธาน ลีเบสแมน ที่สร้างผลงานมันๆอย่าง The Texas Chainsaw Massacre – The Beginning (2006) ที่ได้โปรดิวเซอร์มือโปรด้านการปะทุแนวเขา เผากระท่อมที่ฮอลลีวู้ดอย่าง ไมเคิล เบย์ ผู้กำกับหนังมหากาพย์หุ่นยักษ์ซ้ำๆโลกทรานส์ฟอร์มเมอร์ ทำให้ Teenage Mutant Ninja Turtles (TMNT) มีกลิ่นบู๊แอ๊คชั่น สนุกสนานพอใจประสานอารมณ์ยียวนกวนๆฮาๆประสาวัยรุ่นนินจาเต่า ที่ผู้กำกับประสานทุกส่วนประกอบได้อย่างพอดิบพอดี

แล้วก็ที่จะจำต้องบอกกันตรงๆเลยว่า การที่จะมาดูหนัง Doctor Strange in the Multiverse of Madness เรื่องนี้นั้น คุณอาจจะต้องมีพื้นฐานในการดูซีรีส์มาร์เวลมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น “WandaVision” หรือ “What If…” ที่จะเป็นส่วนประกอบที่จะมาช่วยเติมเต็มและขยายความเข้าใจในสิ่งที่หนังหัวข้อนี้เล่าได้มากมากขึ้น แม้กระนั้นหากว่าใครกันแน่ยังไม่เคยดูซีรีส์เหล่านี้มาก่อน ก็ใช่ว่าจะมองดูไม่รู้เรื่องอะไร ก็พอใช้รู้เรื่องบ้าง หากแม้ก็น่าจะเป็นจุดที่จะสะกิดต่อมให้ตามมาดูย้อนไปแน่นอน

มาถึงทางด้านการแสดงรวมทั้งดาราหนังต่างๆใน Doctor Strange in the Multiverse of Madness กันบ้าง บอกเลยว่ามีเซอร์ไพรส์หลบซ่อนอยู่พอเหมาะพอควรเลยจ้ะ แต่จะไม่สปอยล์ใดๆให้ไปค้นหาคำตอบในหนังกันเอาไว้ “เบเนดิกต์ คัมเบอร์กางตช์” ก็ยังคงรับหน้าที่เป็นหมอแปลกได้ทรงเสน่ห์อีกเหมือนเคย เขายังคงแบกรับติดอยู่แรกเตอร์และสร้างมิติให้กับนักแสดงนี้ได้อย่างน่าทึ่ง ราวกับว่านี่เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของชีวิตเขาไปเสียแล้ว

โดยรวม TMNT สามารถเล่าเซทอัพได้อย่างแจ้งชัดชัดทำให้คนที่ไม่รู้จักจะนินจาเต่ามาก่อน หรือรู้จักอยู่แล้วได้ทำความรู้จักความเป็นมาของนินจาเต่าทั้งยังสี่ไปพร้อมเพียงกันกับการฉากเปิดเรื่อง ซึ่งในที่นี้จะไม่ขอให้เนื้อหาตามใจ แต่เป็นอะไรที่เข้าใจรวมทั้งสนุกไปกับตัวภาพยนตร์ได้โดยง่าย กลิ่นของหนังแอ็คชั่นซุปเปอร์วีรบุรุษ ผสมมุกขบขันที่ยียวนในอารมณ์สมควร

กับงานออกแบบงานสร้างที่ได้กลิ่นอายของมหานครนิวยอร์กทั้งผู้คนนานัปการ อาคารสูงระฟ้า สล็อตทุนน้อย ezc4s ทั้งระบบรถไฟใต้ดินและก็ท่อสำหรับระบายน้ำโกลาหลสะท้อนตัวตนของมหานครนิวยอร์กได้อย่างดียิ่ง ฉากแอ็กชั่นที่ออกแบบมาอย่างบู๊ระห่ำสาใจ อีกทั้งประดิษฐ์แล้วก็สะกดผู้ชมได้อย่างอยู่หมัด! สรุปโดยรวมแล้ว TMNT เป็นภาพยนตร์ซุปเปอร์วีรบุรุษ รสบู๊แอ็คชั่นสนุกยียวนกวนฮาเคล้าผสมกันได้อย่างกลมกล่อมละมุนละไมเรื่องหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ