สาธุ The Believers (2024)

สาธุ The Believers (2024)

สาธุ The Believers (2024) เรื่องย่อ วิน เกมส์ รวมทั้งเดียร์ คู่หู 3 ผู้ลงทุนทำธุรกิจเกมโดยใช้เงินลงทุนจากการยืมนอกระบบ แม้กระนั้นพบเจอปัญหาธุรกิจเจ๊งและก็ยังเป็นหนี้ก้อนโตกับเจ้าหนี้สุดโหดเหี้ยม พวกเขาต้องหาเงินมาจ่ายและชำระหนี้ให้ได้ในเวลาอันจำกัด และก็พวกเขาก็ศึกษาและทำการค้นพบแนวทางที่จะหารายได้จำนวนหลายชิ้นให้ได้ในเวลาอันเร็ว โน่นเป็นแนวทางการทำธุรกิจวัดนั่นเอง พวกเขาใช้โมเดลธุรกิจ การตลาดแล้วก็ความรู้ความเข้าใจส่วนตัวเข้าไปทำให้ “วัดภุมเรศม” ที่ซึมเซาแปลงเป็นวัดดังในเวลาอันไม่นาน ยิ่งคนเข้าวัดเยอะแค่ไหน วัดก็มีเงินหมุนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแค่นั้น วัดรวมทั้งความเลื่อมใสของคนเราก็เลยเป็นแหล่งทำเงินขนาดใหญ่ การหากินกับวัดคราวนี้จะสะดุดหรือราบรื่น

Review สาธุ เรื่องย่อ: วิน เกม แล้วก็เดียร์ อีกทั้ง 3 คนเป็นหนี้หัวโตจากความไม่ประสบผลสำเร็จของเกม NFT ในเวลาที่หดหู่วินได้มองเห็น busines model ที่มีเงินเวียนหลายล้านที่อาจจะส่งผลให้พวกเขาปลดหนี้สินได้โน่นเป็น วัด

จากที่พิจารณาและก็ได้รับดูภาพยนตร์ไทยที่สร้างโดย Netflix ระยะหลังๆนี้ประสิทธิภาพออกจะแตกต่างจากหนังโรงรวมทั้งซีปรี่ย์ตามช่องต่างๆออกจะมากมาย ได้แก่ Delete, เมอเด้อหรอ, Analog Squad จนถึงมาถึงเรื่องปัจจุบันอย่างสาธุ คณะทำงานและก็ดาราหนังไทยยังมีสมรรถนะที่จะทำผลงานดีๆไม่อายต่างประเทศที่เข้ามามองผ่าน Netflix เลย

สาธุ มีความองอาจสำหรับการเปิดเผยด้านมืดของศาสนาจากความประพฤติความเชื่อถือของชาวไทยในหลายๆด้าน แต่ว่าบางทีอาจจะมิได้เผยแพร่สุดทางในบางด้านที่มิได้เกี่ยวกับพล็อตหลัก ปมต่างๆในหนังปฏิบัติดีผู้ชมเข้าถึงปัญหาได้ ทำให้พวกเราลุ้น ต้องการมองว่าหนังจะมีทางขจัดปัญหาอะไร ซึ่งในรูปภาพรวมก็ไหลลื่นบันเทิงใจแล้วก็น่าติดตาม แม้กระนั้นตอนกลางอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีตอนพองๆเนือยๆที่เกือบจะมองไม่มีอะไรไปสุดแท้แต่ยังกลับมาพีคแปลงเป็นหนัง Thriller บันเทิงใจๆรวมทั้งทิ้งเรื่องราวไว้ทำต่อได้น่าดึงดูดมากมาย

ดาราหนังเป็นหัวใจหลักรวมทั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังหัวข้อนี้สนุกสนาน หลายท่านเสนอหน้าที่ของตนเองได้ดิบได้ดีดูเหมือนจะทุกคนแต่ว่าถ้าหากจะกล่าวถึงผู้ที่ตรึงใจเป็นพิเศษ ผมจะถูกใจเจมส์ในบทวินสูงที่สุด พรีเซนเทชั่นติดอยู่แร็คเตอร์คนรูปแบบนี้ได้แตกมากมายๆอีกคนจะเป็นพี่ปั๊บในบทพระดลที่แสดงเป็นพระได้อ่อนโยนนุ่มลึกเอาจริงเอาจัง เสนอด้านมืดในจิตใจที่มาในแบบความเรียบร้อยได้พอดิบพอดีมากมายๆจริงๆถูกใจพี่ติ๊กอีกคนแต่ว่าบทบางครั้งก็อาจจะน้อยไปหน่อย

สาธุ The Believers (2024) เป็นภาพยนตร์ไทยประสิทธิภาพจาก Netflix

ที่เพียงแค่จุดขายสำหรับเพื่อการเผยด้านมืดของศาสนาก็มากพอที่ทำให้หนังน่าดึงดูดบวกกับการนำเสนอเรื่องราว ปม การปรับปรุงแก้ไข การวางเป้าหมายคล้ายหนังโจรกรรมที่ช่วยทำให้หนังน่าติดตามขึ้นไปอีก มีกลุ่มดาราหนังคุณภาพดีช่วยขับให้หนังมีประสิทธิภาพน่าติดตามไปจนกระทั่งจบ ส่วนที่เกลียดชังจะมีบางช่วงที่เรื่องบางทีอาจจะมองเนือย ความน่าดึงดูดใจหายไป แล้วก็การใช้ภาษาคำหยาบคายที่รู้เรื่องว่าเป็นเรื่องธรรมดาแต่ว่าในบางช่วงจริงๆที่รู้สึกได้ว่าบางครั้งก็อาจจะหยาบคายกระจัดกระจายไปนิด

หนังเผยแพร่ศาสนาพุทธในด้านลบมีมาแล้วหลายเรื่องอย่าง นาคปรก บาป รวมทั้งทำออกมาเจริญทั้งสองโดยที่สะท้อนข้อเท็จจริงอีกด้านของพระออกมา แม้กระนั้นประเด็นนี้เป็นซีรีส์ที่เผยแพร่พุทธการซื้อขายโดยตรงเรื่องแรก ซึ่งเป็นสิ่งที่คนประเทศไทยเองก็เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่ามีอะไรบ้างเพราะเหตุว่าสิ่งกลุ่มนี้อยู่ในสังคมที่เผยมาตลอด (มิได้มีห้ามโปรโมทแบบสุราเบียร์สดด้วย) ซึ่งในหัวข้อนี้ก็ยังใส่บทสำหรับพูดให้นักแสดงที่ออกไอเดียว่าใครๆก็รู้ว่ามันทำเงินมากมายแล้วก็ยังไม่ผิดกฏหมาย ด้วยเหตุผลดังกล่าวในความเป็นจริงแล้วนี่ไม่ใช่ซีรีส์ที่เผยด้านลบอะไรมากมาย

แม้กระนั้นเป็นวิธีทำธุรกิจพุทธการซื้อขายในแบบยุคใหม่มากยิ่งกว่า ซึ่งเรื่องก็เสนอในแบบอย่างการตลาดได้ค่อนข้างจะดี โดยไล่ระดับตั้งแต่การหาวัดเสื่อมโทรมๆมารีโนเวทวัดใหม่ เข้าพบมักคนาชูตกลงคำสัญญาส่วนแบ่งให้ ทำการตลาดให้วัดทุกหนทาง หาพระเทศนาดีๆรูปหล่อมาเป็นใบหน้าให้วัด

ไปจนกระทั่งวิธีการทำพระเครื่องลางแล้วก็หาทางสร้างสตอปรี่มันให้ขลัง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่หารายได้ได้มากสุดรวมทั้งสร้างมันได้ยากสุดเพราะเหตุว่ามีขั้นตอนหลายชนิด ซึ่งเรื่องก็รีเสิร์ชขั้นตอนเหล่านี้มาดีและมั่นใจว่าทำเป็นจริง พระวัดไหนก็ใช้ประโยชน์ได้หรือก็ทำอยู่แล้วด้วย โดยซีรีส์ได้สร้างปัญหาในแต่ละขั้นตอนไว้ให้นิดๆใส่เอาไว้ข้างในแต่ละตอน พอให้คนได้ลุ้นว่าพวกเขาจะไปรอดไหมด้วยเหตุว่ามันก็ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่คิดเลย

ซีรีส์ความยาว 9 ตอนสุดท้ายเรื่อง สาธุ ซึ่งสตรีมทาง Netflix ปัจจุบันนี้ ใช้ประโยชน์จากความอิสระสำหรับในการรับทราบข่าวสารของผู้ชมได้ครบถ้วนทีเดียว สิ่งสำคัญ ผู้ผลิตไม่ต้องตบหัวแล้วก็ลูบข้างหลัง หรือออกสตาร์ทเป็นอีรุงตุงนังด้วยการขึ้นเนื้อความประมาณว่า นี่เป็นซีรีส์ที่สร้างเพื่อ ‘บ่งบอกเรื่องบุญบาปคุณโทษ และไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาพุทธ ผู้ชมโปรดใช้วิจารณญาณ’ ซึ่งเป็นฟอร์แมตที่ไม่น่าสนใจ

รวมทั้งจุดหมายที่จริงจริงก็เป็นอย่างที่จั่วไว้ข้างต้น มันพาผู้ชมไปตรวจสอบแวดวงศาสนาในมิติของพุทธการซื้อขาย หรืออีกแง่หนึ่ง เป็นธุรกิจที่ดินสำหรับประกอบอาชีพกับความเชื่อถือและก็ความนับถือของคนเรา ซึ่งยิ่งเวลาล่วงเลยไป ข้อความสำคัญไม่ถูกถูกใจเลวทรามดีก็ไม่ใช่แก่นหรือสาระอะไร รวมทั้งไม่ใช่ข้อห่วงไม่สบายใจของบรรดาผู้แสดงหลักของเรื่อง เนื่องจากจนแล้วจนรอด นี่คือเรื่องของอุปสงค์แล้วก็อุปทาน วัดหรือศาสนสถานก็คือหน่วยธุรกิจที่ประมวลจากสิ่งที่ผู้ผลิตเสนอ ถ้าหากว่าบริหารจัดแจงให้ดีๆมันสามารถเป็นแหล่งค้นหารายได้ที่มีจำนวนเงินไหลเวียนอย่างใหญ่โต ซึ่งก็แน่ๆว่านี่ไม่ใช่การพูดอย่างเพ้อเจ้อหรือเลื่อนลอย แต่ว่าอ้างอิงได้จากโลกข้อเท็จจริง หากว่าถึงที่สุดแล้วช่วงเวลาเพียงหกเดือนตามกรอบการเล่าเรื่องของซีรีส์เรื่อง สาธุ ค่อนข้างจะเร็วเกินกว่าที่คนไหนจะสามารถดลใจให้วัดโนเนมชนบทมีชื่อเสียงติดอันดับขึ้นมา แล้วก็ผู้ผลิตใช้สิ่งที่ Artistic License หรือข้ออ้างในเชิงศิลป์อย่างค่อนข้างจะสิ้นเปลือง

สำหรับซีรีส์หัวข้อนี้บอกตามจริงว่าผมออกจะตั้งตารอมากมายๆ

สาธุ The Believers (2024)

ซึ่งรู้จักคราวแรกในขณะที่แบบอย่างปลดปล่อยออกมา เพียงแค่มองเห็นเค้าเรื่องที่จะเล่นเกี่ยวกับศาสนาผมก็พอใจมากมายๆแล้ว ต้องการรู้ว่าจะทำเป็นขนาดไหน จะกล้าขนาดไหน เพราะเหตุว่าเรื่องนี้มันเกิดเรื่องวิจิตรมากมายในประเทศไทย โชคยังดีตรงนี้เป็นของ Netflix เนื่องจากถ้าเกิดฉายลงช่องโทรทัศน์หรือทำเป็นหนังฉายโรงนี่ค้ำประกันได้เลยว่าโดนแบนแน่นอนอย่างไรก็ดี

ภายหลังที่ได้มองจนกระทั่งจบก็จำเป็นต้องพูดว่าซีรีส์เขากล้าทำจริงๆเล่นครบหมดทุกหลักสำคัญที่เกี่ยวกับพุทธการขาย อีกทั้งการโกงเงินบริจาค พระทะเลาะกันในวัดเพราะว่าเรื่องออกธุระนิมนต์ พระเล่นยา ไปจนกระทั่งนักการเมืองที่เข้ามาบริจาคให้วัดโดยส่งผลผลดีแฝง ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่ซีรีส์พรีเซ็นท์ออกมามันเป็นสิ่งที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วอยู่แล้วเพียงแค่ไม่ค่อยมีคนใดกันเอ๋ยถึงกันเยอะแค่ไหน จุดเด่นอีกอันนึงเป็นตัวซีรีส์มีจังหวะการเล่าเรื่องที่กระชับ เร็ว ไม่กินเวลา มองเพลิดเพลินมากมาย ไม่มีจังหวะให้ผู้ชมได้เบื่อเลย

โครงเรื่องสุดเข้มข้นที่ใช้เวลาหาข้อมูลถึง 5 ปี กว่า 5 ปีที่ “วรรธนโคตร ตระกูลชาติชั้นวรรณะ” ผู้กำกับของเรื่องได้วางพล็อตซีรีส์เรื่อง สาธุ ไว้ ด้วยความมุ่งมั่นสำหรับการหาคำตอบถึงสิ่งที่เขาสงสัยในวัยเด็ก รวมทั้งมานะจะทดลองหาคำตอบด้วยการผลิตโลกของผู้แสดงขึ้นมา เขารอเวลาในวันที่รู้สึกว่าสังคมไทยเปิดกว้างทางความนึกคิด เห็นด้วยความนึกคิดที่นานัปการและก็ความนึกคิดที่ต่างกันได้มากขึ้น พร้อมที่จะให้เอาเรื่องต่างๆมาเสวนา คัดค้านกันได้มากยิ่งขึ้น โดยเขาให้ความใส่ใจกับวิธีการทำรีเสิร์ชเก็บข้อมูลวัดในประเทศไทยมากยิ่งกว่าหนึ่งร้อยที่เพื่อปรับปรุงบท ร่วมกับการประสมประสานของกลุ่มเขียนบทที่ต่างเจนเนอเรชั่นกันเพื่อได้มุมมองของทั้งคนรุ่นก่อนและก็คนรุ่นหลังที่มีต่อศาสนา และก็ถ่ายทอดเรื่องราวของ สาธุ ให้ออกมาถูกใจผู้ชมสูงที่สุด

อีกสิ่งที่คนเขียนรู้สึกถูกใจสำหรับในการเสนอก็คือ การนำเสนอเรื่องราวอันแสนจะบอบบางรวมทั้งย้อนคัดค้านของศาสนาในบางมุมที่ถ่ายทอดออกมาได้น่าดึงดูดครับผม ตั้งแต่การเล่นกับมุมมองของความย้อนคัดค้านเกี่ยวกับพุทธการค้าขาย เพราะเหตุว่าธรรมดาการสัมผัสหรือใช้จ่ายเงินนับว่าเป็นเรื่องที่ผิดวินัยพระสงฆ์ พระก็เลยไม่ต้องการเข้าไปข้องแวะหัวข้อนี้เท่าใด แม้ว่าจะมีพระเลขาเจ้าระเบียบรอสอดส่องอยู่ แต่ว่าก็ทำเป็นเพียงแค่ฝากฝังให้ผู้ครองเรือน (คณะกรรมการวัด) ไปจัดแจงแทน หรือมุมมองของศาสนาที่วินิจฉัยว่าอะไรบาป อะไรไม่บาปด้วยการมองไปที่เจตนา ซึ่งในความจริง เจตนาเป็นอะไรที่พิสูจน์ได้ยากมากมาย สิ่งกลุ่มนี้ล่ะก็เลยเป็นช่องว่างหาเลี้ยงชีพด้วยการเอาเจตนาดีเป็นเกราะกำบัง ซึ่งในหนังมิได้เสนอออกมาตรงๆแต่ว่าก็แอบแฝงเอาไว้ให้มองเห็นได้ออกจะแจ่มกระจ่าง

ความน่าดึงดูดใจอีกอย่างที่ไม่เอ่ยถึงมิได้ก็คือกรรมวิธีการเล่าที่มีความเป็นหนังโจรกรรมปนอยู่เยอะพอควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเซ็ตแบ็กกราวน์รวมทั้งติดอยู่แรกเตอร์ของนักแสดงให้มีความเทาๆและก็ใกล้ล่อแหลมจะออกนอกลู่นอกทางอยู่เสมอเวลา จนถึงไม่เคยทราบจะไปสิ้นเรื่องที่ไหน ตั้งแต่วัยรุ่น Tech Nerd ที่มีหัวด้านธุรกิจแล้วก็การตลาด, วัยรุ่นบ้านมั่งมีที่เพียรพยายามใช้เงินขจัดปัญหา, วัยรุ่นสายครีเอทีฟที่มานะเอาการดีไซน์เข้ามาจัดแจงดูแลวัดบ้านๆ

แต่ ถึงตัวซีรีส์จะเสนอหัวข้อเสียดสีที่เจ็บแสบ แม้กระนั้นก็จะต้องดูด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าเขาทำออกมาออกจะเป็นกลางอย่างยิ่งจริงๆ เขาแค่นำเสนอเหตุการณ์ต่างๆให้พวกเราได้มอง ตัวซีรีส์มิได้มีการชักชวนผู้ชมเท่าใดว่าอะไรเป็นดีหรือเปล่าดี จุดนี้จัดว่าทำเป็นดีจังๆด้วยเหตุว่าถึงเขาจะพรีเซ็นท์ด้านมืดของแวดวงนี้ให้พวกเราได้มองเห็นพระแล้วก็ศาสนาในด้านที่ไม่ดี

แต่ว่าในเวลาเดียวกันก็มีตัวละครพระดลของพี่ปั๊ปมาเป็นผู้แทนของพระดีที่เอาอย่างคำสั่งสอน พวกเราเลยจะมองเห็นได้ว่าถึงมันจะมีเรื่องมีราวไม่ดีเกิดขึ้นมาก แต่ว่าในนั้นก็ยังมีคนดีๆผสมปนเปอยู่ด้วย ส่วนตัวผมค่อนข้างจะถูกใจนักแสดงพระดลมากมายๆเขาวางคอนเซปต์ผู้แสดงนี้มาดี แถมใจความสำคัญเรื่องที่ให้พระดลไปหลงเสน่ห์โยมเดียร์ก็เป็นอะไรที่ดีเลิศ ถูกใจซีนที่คุยกันชายหาดมากมาย megashare woodlawn ซีนที่เดียร์ถามคำถามว่าหลวงพี่ไม่เสียดายบ้างหรอที่มิได้ดำเนินชีวิตวัยรุ่น เนื่องจากว่ามันเป็นปัญหาที่ผมเคยคิดในหัวตลอดระยะเวลาพบพระที่บรรพชามาตั้งแต่เด็ก ซึ่งคำตอบของพระดลที่ว่าอะไรที่ผ่านไปแล้วหลังจากนั้นก็เป็นผ่านไปและก็เป็นอะไรที่ดีเยี่ยมด้วยเหมือนกัน สิ่งที่เสียดายสิ่งเดียวเลยเป็นโทนของซีรีส์ที่มาในแนวลักพร้อมการบิ้วอัพอารมณ์ผู้ชมจำนวนมาก

สรุป ซีรีส์เล่าแนวทางการสร้างพุทธการค้าขายในแบบมุมมองการตลาดยุคใหม่ก้าวหน้า มีรีเสิร์ชให้รายละเอียดให้มีความเห็นว่าทำเป็นจริงอย่างไร รวมทั้งปัญหาเล็กๆใส่มาให้ได้พอลุ้น แต่ว่าเรื่องมิได้มีจุดพีคในแต่ละตอนมากมาย กรุ๊ปผู้แสดงนำก็ไม่ค่อยดาร์คมากอปิ้งภาพโฆษณาที่คาดหวังไว้ ก่อนไปบิ้วเงื่อนเข้มเอาส่วนท้ายเป็นเงื่อนอาชญากรรมใหญ่เพื่อไปต่อฤดูกาล 2 แต่ว่าสิ่งที่ดีสุดของเรื่องเป็นฉากอารมณ์ความรักที่เกิดขึ้นของพระที่ถ่วงรวมทั้งขยี้อารมณ์แบบเรียบได้ทุกฉาก

ความจัดจ้าของเคมีผู้แสดงที่พอดี ในซีรีส์ประเด็นนี้พวกเราจะได้มองเห็นเคมีที่พอดีของ 3 ดาราวัยรุ่น

คาแรคเตอร์เด่นอย่าง “เจมส์ ธีรดนย์” (สวมบท วิน) “พีช พชร” (เล่นบท เกม) รวมทั้ง “แอลลี่ อชิรญา” (สวมบทบาท เดียร์) ที่จะมารับหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวการผลิตธุรกิจจากช่องว่างของศาสนาที่ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยถึง นอกเหนือจากนั้นยังมี “ปั๊บ พัฒน์ชัย” (รับบทบาท พระดล) ที่จะต้องโกนหัวเพื่อความสมจริงสมจังสำหรับเพื่อการสวมบทบาทเป็นภิกษุสายวัดป่าผู้เคร่งเป็นครั้งแรก แต่ว่าอัดแน่นด้วยความรู้ความเข้าใจทางการแสดงที่ทุกคนเซอร์ไพรส์ “เพชร เผ่าเพชร” (สวมบทบาท ดารานำชายชัย) พระเลขาคนคุ้นเคยของเจ้าอาวาส รวมทั้ง อีกหนึ่งผู้แสดงสำคัญเบื้องหน้าเบื้องหลังการขับเขยื้อนธุรกิจในคราวนี้ น้าแต๋ง มรรคนายกดั้งเดิมของสงฆ์แมลงผึ้งม สวมบทโดย “ติ๊ก ชาญณรงค์”

จริงๆแอบเสียดายนิดๆที่ตัวหนังยังมิได้เสนออีกเรื่องที่นับว่าเป็นแก่นอีกอย่างของความเป็นพุทธแบบไทยๆก็คือ ความเป็น ‘พุทธ พราหมณ์ ผี’ (ดังที่ อำเภอนิธิ เอียวศรีสกุล เคยนิยามเอาไว้) ซึ่งเอาจริงเอาจังๆถ้าเกิดตัวบทลงลึกและก็กล้าจับหัวข้อนี้เอามาเล่นได้อย่างเอาจริงเอาจังกว่านี้

ก็พูดได้ว่าจะเป็นการเล่นที่เรียกว่าไปเบอร์แรงแบบเผ็ด x2 แน่ๆ เพราะเหตุว่าอย่างที่ทราบดีว่า พุทธแบบไทยๆมันเป็นความสอดคล้องจนกระทั่งแยกไม่ออกระหว่างความเป็นศาสนาพุทธ พิธีกรรมทางพราหมณ์ รวมทั้งความศรัทธาที่เกี่ยวข้องกับผี ซึ่งมันก็จะไปสุดทางมากมายๆแต่ว่าก็บางทีอาจจะเบิกบานน้อยหน่อย (รวมทั้งเรียกทัวร์มาลงได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีก) การละเว้นหัวข้อนี้ไปของซีรีส์ก็เลยไม่ใช่ข้อผิดพลาดบาปรุนแรงนัก

ส่วนต่อไปที่ต้องการเอ๋ยถึงก็คือด้านการแสดง ส่วนนี้จัดว่าทำเป็นดีเลิศเช่นเดียวกัน ดาราหนังทุกคนแสดงดีเอาอยู่กันหมด เจมมี่เจมส์ที่สวมบทเป็น วิน ตัวนำของเรื่องก็แสดงเจริญเช่นเคย ถึงจะมีบางซีนที่ดูเล่นใหญ่หรือล้นๆไปบ้าง แม้กระนั้นภาพรวมส่วนมากก็ยังอยู่ในมาตรฐานที่ดี

พีชพชรที่สวมบทเป็นเกมก็แสดงได้ดิบได้ดีตามมาตรฐานตนเอง แอลลี่ที่สวมบทบาทเป็นเดียร์ก็แสงสว่างดีเกินคาดมากมาย ผมไม่เคยมองการแสดงของน้องมาก่อน น้องเล่นเป็นตัวละครนี้ก้าวหน้าแบบไม่มีที่ติเตียนเลย เสน่ห์ความน่ารักน่าเอ็นดูก็เหลือเฟือ ส่วนอีก 2 ผู้ที่ไม่ดูมิได้เลยเป็น พี่ปั๊ปที่สวมบทบาทเป็นพระดล พี่เอ็งแสดงดีเกินคาดมากมาย แถมใบหน้าพี่เอ็งก็ขึ้นกล้องถ่ายรูปสุดๆนับว่าเป็นนักร้องอีกผู้ที่ควรจะมาเอาดีด้านการแสดง และก็อีกคนเป็นน้าติ๊กกลิ่นสีคนรับบทเป็นน้าแต๋ง หัวข้อนี้พ่อเอ็งแสดงดีจัง

ในทางของแนวเรื่อง สาธุ ก็จัดอยู่ในหมวดฟิล์มถ่ายรูปนัวร์ คือเรื่องของผู้แสดงที่พาตนเองถลำลึกลงไปในโลกของทรชนแล้วก็อาชญากรรมอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แล้วก็ในขณะที่ผู้ชมได้เจอกับ วิน (เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ยิ่งขึ้นไป) หนึ่งในตัวนำของเรื่อง เขากำลังถูกตำรวจที่รูปลักษณ์เหมือนมิจฉาชีพ (ความสำราญ แสงสว่างศร) สืบสวนด้วยข้อกล่าวหาโกงและก็ฉ้อฉลเงินวัด และก็รายละเอียดภายหลังจากนี้ก็คือการชี้แจงว่าเป็นมาเช่นไร วินและก็เพื่อนฝูงอีกสองคนอันเป็นต้นว่า เกม (พีช-พชร จิราธิวัฒน์) รวมทั้ง เดียร์ (แอลลี่-อชิรญา นิติพน) ซึ่งร่วมลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพเกมออนไลน์ร่วมกัน ถึงได้มาจบในภาวะราวกับสุนัขหมดปัญญาแบบงี้

หรือกล่าวให้หมดเปลือกก็ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ปัจจัยมาจากความอ่อนหัดรวมทั้งความวางท่าหยิ่งของอีกทั้งสามผู้ที่ทำให้พวกเขาติดหนี้เงินกู้ยืมนอกระบบปริมาณมากมาย แล้วก็เปลี่ยนเป็นว่าวินเป็นผู้ที่จำเป็นต้องจ่ายดอกงวดแรกด้วยการเช็ดกแก๊งค์อันธพาลลงไม้ลงมือบอบช้ำ โดยปริยาย เหตุการณ์บีบคั้นให้ทั้งสิ้นจำเป็นต้องมองหา ‘Business Model’ ที่จะทำให้พวกเขาหารายได้มาชดเชยหนี้รวมทั้งดอกสุดชั่วร้ายได้เร็ว รวมทั้งพนันครั้งโอฬารก็คือการพัฒนาหรือ ‘รีกางรนดิ้ง’ วัดเล็กๆที่มองมอมแมมให้แปลงเป็นโปรดักต์ที่เย้ายวน แล้วก็สาธุชนกำเนิดความเชื่อและก็ต้องการร่วมทำบุญทำกุศล