หนังฟรีไม่กระตุก ดูหนังHD ดูหนัง2022 ดูหนังฟรี

หนังฟรีไม่กระตุก

หนังฟรีไม่กระตุก ดูหนังHD ดูหนัง2022 ดูหนังฟรี

หนังฟรีไม่กระตุก เอโนลา โฮล์มส์ ก็ยังคงเป็น เอโนลา โฮล์มส์ ความสนุกสนานแล้วหลังจากนั้นก็ชั้นเชิงยังคงงัดเอามาใช้ในการเล่าที่ทำให้เป็น 2 ชั่วโมงที่เต็มไปด้วยการไต่สวนที่สนุกเอาการเหมือนเคย โดยหนังภาคนี้ไม่ต้องมาเสียเวล่ำเวลามาปูทางปูเรื่องอะไรก็แล้วแต่อีกต่อไป ก็เลยเริ่มและก็มีทิศทางที่กระชับฉับไว และเข้าที่เข้าทางค่อนจะไปอย่างรวดเร็ว และก็เข้าเรื่องของเรื่องได้แบบทันเวลา

การแสดงออกรวมทั้งมุมมองความคิดของแต่ละตัวละครทำให้เราได้ลงความเห็นว่าแต่ละคนมีแนวทางจัดแจงกับความไม่สบายของตนเองต่างกัน บางคนอาจแค่เพียงทำใจยอมรับแล้วอยู่กับมัน บางคนหงุดหงิดอารมณ์เสียเพื่อคุ้มครองปกป้องรักษาข้างในที่เปราะบาง หรือบางคนอาจไม่ทิ้งความประสงค์และก็มองหาทางใหม่ๆตลอดเวลา ไม่มีความแตกต่างกับมนุษย์เราที่มีแนวทางจัดแจงกับความกลัว ความหม่นหมอง หรือความเจ็บไข้ได้ป่วยไม่เหมือนกันออกไป

“แฮร์รี่ กางรดเบียร์สด” กับกรุ๊ปเขียนบทชุดเดิมยังคงกลับมาเล่นเพลงเรื่องราวในตอนนี้ ดู หนังไม่กระตุก ดูราวกับว่าพวกเขากลับมาในหน้าที่ที่ค่อนจะชำนิชำนาญ ทั้งยังจังหวะแล้วหลังจากนั้นก็หนทางของหนังถูกเรียบเรียงออกมาได้กระชุ่มกระชวยมากขึ้น ทุกอย่างลื่นไหลไปตามเรื่องราวได้เกือบไม่มีอะไรติดขัด กับสเกลของหนังที่ใหญ่ยิ่งอย่างแจ่มแจ้ง และตัวละครที่มีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆด้วย

คำกล่าวก่อนเริ่มชมรมในแต่ละคืน เปรียบเหมือนพิธีบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ที่เด็กอีกทั้ง 8 มีด้วยกัน สมาคมสยองขวัญที่นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ขณะใดไม่มีผู้ใดรู้ สิ่งที่รู้แน่เป็นข้อตกลงที่พวกเขาทำร่วมกัน คนไหนตายก่อนคนนั้นต้องทำทุกทางเพื่อกลับมาบอกคนที่เหลือให้ได้ว่าโลกหลังความตายเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาจะยังไม่เคยมีผู้ที่ตายไปกลับมา หากแม้นี่ก็คือสิ่งที่พวกเขาถือมั่นร่วมกัน

The Mandalorian เกิดเหตุราวของชายในชุดเกราะที่เราไม่รู้จักชื่อว่าเขาเป็นใครกันแน่ หากแม้เรื่องจะมีผลให้เราพอเพียงทราบได้ว่าเขาเป็นนักล่ารางวัล ที่จะตรวจการรับงานไปในจักรวาล Star Wars ทำงานเสร็จหนึ่งงาน รับเงิน แล้วก็รับงานต่อไป โดยชายนิรนามผู้นี้ ทุกๆคนจะเรียกเขาว่า เขาเป็นชาว Mandalor แล้วก็ธรรมเนียมปฏิบัติของชาว Mandalor สุดหล่อของเขาก็คือ เขาจะไม่เปิดเกราะหน้าของเขาให้คนไหนกันแน่ได้เห็น เขามาเพื่อปฏิบัติการ ปิดจ๊อบ รับเงินเท่านั้นเอง

ผู้คนจำนวนมากอาจจะมุ่งมาดปรารถนาว่า ‘The Midnight Club’ จะมีสไตล์คล้ายกับ ‘The Creepshow’ แม้ว่าเอาเข้าจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะสิ่งที่สัมผัสได้ในซีรีส์เรื่องนี้เป็นกลิ่นที่มองดูลึกลับของสถานที่ดูแลไบรท์คลิฟท์ สโมสรเริ่มแรก ปัญหาที่ชวนสงสัย ส่วนเรื่องเล่าที่เด็กๆสลับกันมาเล่านั้นมีมากมายก่ายกองแนว ทั้งยังไต่สวน ลึกลับ ไซไฟ แฟนตาซี ผู้ใดกันแน่ประทับใจเรื่องสั้นสไตล์นิยายสยองขวัญแบบตะวันตกที่ลึกลับบางโอกาสก็หักมุมก็อาจต้องใจ

ส่วนคนที่หวังมาเสพความหลอน ความน่ากลัว อะไรที่เป็นผีแบบเนื้อๆก็อาจไม่ตอบปัญหาแค่ไหน เว้นแต่จังหวะจัมป์แสกกลางร์ที่ใส่มาแบบเยอะมากในตอนแรก มากมายจนกระทั่งดูอย่างกับว่าถากถาง ซีนนี้คนใดกันชอบใจก็อาจขำๆแล้วถูกใจไปเลย ส่วนคนรังเกียจอาจมีอารมณ์เสียได้อย่างเดียวกัน (แน่นอนว่าคนไหนกันที่ขี้ขลาด ไม่ถูกกับเสียงดนตรีดังๆและจากนั้นก็จัมป์แสกกลางร์ก็ขอติด Warning Trigger เตือนไว้ให้นี้เลย)

แม้ Enola Holmes 2 จะยังคงดำเนินเรื่องไปตามสูตรสำเร็จเดิมๆที่เวิร์กกับในหนังภาคแรก แต่หนังจะใส่จังหวะที่เติบโตมากขึ้นเรียกตัวละครได้เป็นอย่างดี ถึงจะเป็นติดอยู่แรกเตอร์สายเยาวชน ถึงแม้เห็นได้ชัดว่าเอโนลามีลำดับรวมทั้งความรุ่งโรจน์ที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น แม้กระนั้นคุณก็ยังไม่ทิ้งลายแล้วก็เสน่ห์อันเป็นตัวของตัวคุณเองในหนังไปได้ ยังคงเฉิดฉายได้เป็นอย่างดี

รวมทั้งเมื่อ ไม่ลลี่ บ็อบบี บราวน์ มารับหน้าที่ถ่ายทอดบทนี้ด้วยแล้ว นี่เป็นอีกครั้งของคุณในบทนี้ ทำให้อะไรหลายๆอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น คุณรู้สึกทางแล้วก็จังหวะสำหรับในการเป็นเอโนลาได้ดีเยี่ยมขึ้น การดีไซน์ศิลปินนี้แม้ว่าจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากเท่าไรนัก แม้กระนั้นความรู้ความเข้าใจของน้องไม่ลลี่ ก็สามารถแบกรับหนังทั้งหัวข้อนี้เอาไว้ได้สบายๆอยู่ด้วยเหมือนกัน

แต่หลังจากจบในขณะที่หนึ่ง จังหวะของซีรีส์มองดูเข้าที่เข้าทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีจัมป์สมึงร์มากเกินความจำเป็นแบบระยะแรก ถึงเรื่องราวจะมองดูเฉื่อยๆบ้างในบางตอน ถึงแม้ว่าเรื่องเล่าที่สมาคมสยองขวัญเที่ยงคืนเล่าในแต่ละตอนก็น่าสนใจหลากหลายจวบจนกระทั่งทำให้มองดูเพลิดเพลินเจริญใจๆได้ สิ่งที่ดีจังๆในซีรีส์คือปัญหาเชื้อเชิญติดตามที่เกี่ยวเราเอาไว้ให้รู้สึกอยากดูจวบจนกระทั่งจบ

ในส่วนของโปรดักชันจำเป็นที่จะต้องขอบอกว่าทำออกมาค่อนจะดี เพราะว่าเรื่องอยู่ในตอนยุค 90s เราจะได้เห็นบรรยากาศแบบย้อนยุคสุดคลาสสิก ทั้งแฟชั่นของศิลปิน ยานพาหนะ หรือสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆยิ่งไปกว่านี้โลเคชันหลักอย่างไบรท์คลิฟท์ยังเป็นคฤหาสน์ที่มองดูงามรวมทั้งลึกลับเหมาะสมกับเรื่องราวด้วยส่วนผีหรือความหลอนก็ลืมๆไปเถอะ เพราะเรื่องราวย้ำไปที่ความเร้นลับและมุมมองชีวิตของคนไข้ระยะตอนท้าย มากกว่าความสยองขวัญแบบครบสมบูรณ์

หนังฟรีไม่กระตุก

รีวิวหนัง “My Policeman ขอก็แค่หัวใจได้มีรัก”

มาถึงคิวอีกหนึ่งผลงานการแสดงที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดไม่น้อยของนักร้องหนุ่ม “แฮร์รี่ สไตล์ส” ที่วางไมค์มาโชว์ความรู้ความเข้าใจการแสดงอย่างเต็มขั้น ในฐานะดาราภาพยนตร์คนใหม่ของวงการ รวมทั้งนี่ก็คือหนึ่งผลงานอันท้าทายของเขา “My Policeman ขอแค่เพียงหัวใจได้มีรัก” ที่มาพร้อมด้วยกิจการค้างแรกเตอร์ท้าทายสำหรับมือใหม่ กับหนังรักที่มีหัวข้อที่ท้าทายศีลธรรมแล้วก็หัวใจ

‘The Midnight Club’ ไม่ใช่ซีรีส์สยองขวัญที่เต็มไปด้วยเรื่องผีหลอนๆเชื้อเชิญขนหัวลุก แต่บรรยากาศด้านในเรื่องจะมีความเร้นลับ ปัญหา เชิญให้ค้นหาความจริงมากกว่า ถึงแม้ตัดจังหวะจัมป์สเธอร์ที่ใส่มาค่อนข้างจะจำนวนมากออกไปก็สามารถมองดูเพลินใจๆได้ นักแสดงมีความมากมายทำให้นักแสดงแต่ละตัวเด่นรวมทั้งมีเอกลักษณ์ยาวไกลรวมถึงมีถึงแม้ว่าความไม่เที่ยง

หากแม้บางเงื่อนในเรื่องที่ใส่เข้ามาก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยจำต้องมากแค่ไหนแถมบางคราวยังปล่อยจางจวบจนกระทั่งทำให้มีความรู้สึกว่าตัดจบไปแบบซุกซนๆส่วนด้านการนำเสนอปรัชญา มุมมองชีวิตของผู้บาดเจ็บระยะสุดท้าย ความเชื่อถือเรื่องไสยศาสตร์และวิทยาศาตร์ ถือว่าทำออกมาเจริญและก็น่าสนใจอย่างยิ่งจริงๆ หมายคือ ความเป็น ‘หนังแนวบางทีอาจบารมี’ ที่คนไม่ใช่น้อยรอคอยว่า ในช่วงเวลานี้พี่บางทีอาจเดชะ (ในฐานะผู้เขียนบท)

โดยที่ในภาคนี้ยังโชคดีหน่อยที่ได้ติดอยู่แรกเตอร์เสริมเข้ามาช่วยสมทบอีกมากมาย โดยเฉพาะ “เฮนรี่ คาวิลล์” ที่ภาคนี้ที่แทบจะขยับมารับบทนำ และ เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ในตัวอย่างของเขาก็ถ่ายทอดออกมาล้ำหน้า แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่รอง แม้ว่าเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าผู้ใดเลย เหมือนกันกับ “หฝ่าส์ พาร์ทริดจ์” ที่กลับมาและวิถีทางที่เติบโตขึ้นด้วยเหมือนกัน แม้ว่าบทของเขาในภาคนี้จะไม่ค่อยมีมิติอะไรเท่าไร ถึงแม้ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่แต่งแต้มเอาไว้ในหนังเรื่องนี้

วันดีคืนดี ก็ดันมีงานธรรมดางานหนึ่ง ที่จะว่าถูกตามกฎหมายก็ไม่ใช่ ไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่เชิง นักล่าคนนี้ได้รับคำสั่งให้ไปฆ่าจุดประสงค์ อายุ 50 ปีโดยประมาณซึ่งสุดหล่อใต้เกราะคนนี้ ก็เดินทางผ่านดาวไปยังดาวจุดมุ่งหมาย ซ้ำๆทุกสิ่งทุกอย่างเยินแบบทะลวงฟัน เนื่องจากเจ้าตัวนักล่าชาว Mandalor ต่างได้รับการตั้งชื่อว่าเป็นนักล่ามีความรู้ความเข้าใจ

แม้เงินเดือนจะแพง แต่งานไม่เคยจะไม่เป็นผลสำเร็จนะจะบอกให้ และก็อาวุธที่ครบมือ แม้ว่าจะไม่มีกระบี่เลเซอร์แบบอัศวินเจได แม้กระนั้นความรู้ความเข้าใจของฮีก็พอใช้ได้ และก็ชุดเกราะของฮีที่ทำมาจากเหล็กแอสคาร์ ที่แม้แต่กระบี่เลเซอร์ก็ฟันไม่เข้า ก็ทำให้ฮีโชว์เหนือไปใหญ่ แล้วก็แน่นอนว่า พอเพียงพี่บางครั้งก็อาจจะอำนาจทำหนังทั้งที ก็เหมือนกับเป็นสิ่งที่แฟนหนังตั้งตารอไปแล้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จะเลือกถือเอาหัวข้ออะไรมาใส่ผ่านเรื่องราวแล้วก็สัญญะต่างๆโดยเฉพาะสาระสำคัญเกี่ยวกับปัญหาความอึดอัดที่ปิดล้อมตัวของคนยุคนี้ ความกดทับของสังคมที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อต่างๆทั้งเรื่องเฉพาะตนในความนึกคิดของคนแต่ละคนในฐานะหน่วยของสังคม หลายครั้งจนกระทั่งไปถึงระบบ ระบอบ และจากนั้นก็ผู้มีอำนาจ (ทั้งในเชิงตำแหน่งหรือความนับถือ) หรือแม้แต่การถ่ายทอดเรื่องราวของอนาคตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ถ้าหากใครกันแน่เคยติดตามผลงานของผู้กำกับคนนี้ คงจะพอเข้าใจว่าตัวหนังจะออกมาแนวไหน ส่วนตัวคนเขียนก็ไม่เคยดูผลงานของผู้กำกับคนนี้มาก่อนเลย แต่ก็เพียงพอจะเดาได้จากตัวอย่างว่านี่ไม่ใช่หนังธรรมดาแน่นอนมันต้องเป็นเรื่องขำขันร้าย ที่แฝงด้วยความบริสุทธิ์ใจจุดสำคัญทางสังคม ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นในความเป็นจริงแล้วก็จำต้องบอกเลยว่ามันไม่ได้เข้าใจยากอะไร

หนังถูกแบ่งเป็น 3 องค์อย่างชัดเจน ที่ในระหว่างดำเนินเรื่อง ตัวหนังจะจิกกัดตั้งแต่หัวข้อแฟชั่น เรื่องเพศ สังคม ชนชั้น ฐานะ ความร่ำรวยความฝืดเคือง ระบบทุนนิยม การปกครอง ที่ไม่ต้องถอดความอะไรเยอะแค่ไหนเลย จิกกัดกันอย่างไม่อ้อมค้อม และเรียกเสียงเฮได้อย่างดียิ่ง บางฉากนี่ขยี้ซะบ้าๆสุดๆมีหลายฉากที่เราชื่นชอบมาก และอาจจะพาให้แก่ท่านตามไปเก็บผลงานอื่นของเขาด้วยก็เป็นได้

ไม่ว่าจะเป็นฉากที่มาของเรื่องกับการมาคัดตัวนายแบบ, ฉากแย้งกันเรื่องผู้ใดกันแน่จ่ายค่าอาหาร, ฉากคนสองขั้วมาพ่นคำคมแนวคิดของตนเอง, ฉากสุดวายป่วงคืนลมพายุ หรือการเปลี่ยนขั้วอำนาจในองค์ 3 แต่ก็เห็นด้วยว่าไหนบางครั้งบางคราวตัวหนังก็มีความเรื่อยอาจด้วยเหตุว่าก็ไม่ใช่ทุกฉากที่เราจะเข้าหัวใจด้วย จริงๆหนังก็เป็นแนวพูดจาพาไปเสียจำนวนมากอยู่แล้ว

รีวิวหนัง “Causeway”

ภายหลังที่พักเบรกงานแสดงและจากนั้นก็ออกไปสร้างครอบครัวกับมีผู้สืบสายเลือดตัวน้อยๆให้เชยชมแล้ว “เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์” ก็ได้เวลาคัมแบ็กกลับสู่แวดวงการแสดงอีกครั้งกับหนังที่คุณเลือกทำสำเร็จงานคัมแบ็ก อย่าง “Causeway” ที่เป็นตัวเลือกที่ดี แม้กระทั่งค่อนข้างจะเป็นหนังนอกกระแส แต่กลายเป็นหนังที่ขายการแสดงแบบแน่แน่วที่ค่อนข้างจะซึมซาบถึงรูปแบบชีวิตด้านหลังวันร้ายๆได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย

ในความเป็นจริงแล้วปกตินักประพันธ์ถูกใจใส่เรื่องย่อ หรือ Synopsis ของหนังลงในบทความด้วยเพื่อนักอ่านได้ทราบเรื่องเรื่องราวเกี่ยวกับตัวหนังได้อย่างไม่ยากเย็นขอรับ แต่กับ ‘Faces of Anne’ หรือ ‘แอน’ เนี่ย แอบเล่ายากแฮะ แม้ว่าคอนเซ็ปต์หลักๆก็คือ ตัวหนังนั้นขับเคลื่อนด้วยผู้แสดงเพียงตัวเดียว หมายถึงหญิงสาวที่มีชื่อว่า ‘แอน’ แอนถูกปล่อยมาอยู่ในวอร์ดผู้ป่วยทางจิตใจในสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง

คุณมาพร้อมกับความจำอันมัวแม้ว่าความน่าสะพรึงกลัวไม่ใช่แค่นั้น เนื่องจากว่าคุณยังต้องเผชิญกับปีศาจร้ายที่มีชื่อว่า ‘เวติโก’ (Vetico) ปีศาจหัวเป็นกวาง ตัวเป็นคนที่รอคอยออกไล่ฆ่าพวกท่านยามวิกาล แอนมีเพียงอย่างเดียวที่จึงควรทำเป็น การค้นหาทางออกจากสถานที่ลึกลับที่นี้ ก่อนที่จะโดนเวติโกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แต่มันเรียกเสียงหัวเราะได้ดีเลยทีเดียว หากแม้คนใดกันแน่ไม่เคยลิ้มชิมรสผลงานของ Ruben Östlund นี่ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าทดสอบ

งานง่ายๆงานแรกของฮี แทนที่จะปิดจบไปง่ายๆใสๆแม้กระนั้นมันไม่ใช่จ้ะ เนื่องจากว่าจุดมุ่งหมายอายุ 50 ปีของฮี มันดันไม่ใช่มนุษย์ หรือเจ้าพ่ออะไรไหน แม้กระนั้นมันเป็น Yoda ตัวน้อย เป็นสิ่งมีชีวิตวัยเด็กตาแป๋ว ที่อยู่บนเปล เมื่อฮีพบตะหนูน้อง ก็เกิดใจอ่อน ฆ่าไม่ลง น้องเองเมื่อเห็นนักล่า ก็ส่งตาแป๋ว คิดว่าเขามาช่วย ก็เลยติดตามไปด้วย

ทางด้านนักแสดงแต่ละคนมีคาแรคเตอร์ที่โล่งแจ้งชัด และรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองกันได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะมีบางตัวละครเสียดายที่ออกมาไม่ล้นหลามก็ตาม แม้ว่ามีคาแรคเตอร์เด่นๆที่ลักขโมยซีนเป็น Dolly De Leon กับดาราหนังแม่บ้านอันน่าจำ สรุปแล้ว Triagle of Sadness มันยอร์ชมาก เป็นหนังที่จิกกัดหลายด้านที่เข้าถึงง่าย เข้าใจง่าย แน่นอนคุณอาจไม่ได้เข้าใจทั้งหมด

ด้วยเหตุว่าเปลี่ยนเป็นว่าผลงานปัจจุบันของเขาใน Me Time เปลี่ยนเป็นเพียงแต่ภาพยนตร์ตลกสูตรสำเร็จที่รับมาเพื่อปฏิบัติตามปัญหาเฉยๆราวหนังที่ไม่มีชีวิตชีวา เป็นภาพยนตร์ตลกที่ยิงมุกตลกโปกฮาแผลงๆใส่เข้ามาเล็กน้อยตลอดทั้งเรื่อง กลับไม่ค่อยจี๋ถูกจุด รวมทั้งสร้างความรื่นเริงใจให้กับผู้ชมได้ฮาแบบสุดๆมิได้แบบถูกจุดได้เสียทีเดียว แปลงเป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ตลกที่ราวกับจะรสจัดจัดจ้าน แม้กระนั้นเป็นเพียงแค่พริกเลียนแบบๆที่ใส่เข้ามาแค่นั้น

อีกจุดที่หนังทำเป็นดีเยี่ยมๆเป็นการเลียนแบบภาพและก็ทัศนคติของคนประเทศญี่ปุ่นต่อเกย์ ซึ่งการเอาไม่อุระที่เป็นสาววายมาเป็นตัวจุดใจความสำคัญก็ถือว่าฉลาดมากมากมายๆจนกระทั่งก่อให้เกิดซีนสุดปวดและก็อึดอัดอย่างฉากทำการบ้านเลขหรือการเอารูปปั้นเทวดาต่างๆมาจิ้นกันในทำนองคนใดกันแน่รุกผู้ใดกันรับโดยไม่เคยรู้เลยว่าผู้ที่ฟังคุณอยู่อย่างอันโดจะรู้สึกเช่นไร

ในฉากเปิดเรื่องฮึนฮาได้ทำให้ผู้ชมมีความคิดเห็นว่า “เด็กหญิง” อย่างคุณนั้นมีความเข้าใจสำหรับการขับขี่รถไม่เป็นสองรองผู้ใดกัน ซึ่งตามธรรมดาแล้วหนังแอ็คชั่นในเครือญาติรถยนต์ซิ่งนั้น ผู้แสดงเพศหญิงชอบเป็นตัวละครสมทบ และก็ให้ “เพศชาย” มาเป็นตัวละครหลัก (ถึงแม้แฟรนไชส์ Fast ภาคข้างหลังๆนักแสดงของมิเชล โรดดิเกซจะได้มีหน้าที่เยอะขึ้นก็ตามแต่) แต่ว่าคงจะจำต้องสารภาพว่า Special Delivery เป็นการประกาศกร้าวว่า สตรีก็ขับขี่รถซิ่งได้เก่งไม่แพ้กัน

หนังฟรีไม่กระตุก

รีวิว The Billionaire

ต๊อบ เด็กม.ปลายที่กำลังอยู่ในตอนหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ว่าเขามิได้พอใจการเข้าชั้นเรียนมหาวิทยาลัยมากเท่าไรนักแล้วก็หันไปเอาดีกับการเล่นเกมออนไลน์แทน แม้กระนั้นแล้วจุดหักเหในชีวิตก็มาถึงเมื่อครอบครัวของเขาจำต้องอยู่ในจุดล้มละลาย เริ่มต้นต๊อบหารายได้จากการเล่นเกมออนไลน์ แต่ว่าทำเป็นไม่นานนัก ID ของเขาก็ถูกแบนอย่างปัญหา

เขาก็เลยหันไปลงทุนกับธุรกิจขายเครื่องเล่น DVD แต่ว่าก็พังทลายหมดรูป หนังฟรีไม่กระตุก ไม่ว่าจะจับจับอะไรก็ประสบความล้มเหลวเลยสักอย่าง ทำให้บิดามารดาผิดหวังซ้ำๆซากๆกระทั่งตกลงใจทิ้งเขาไว้ด้านหลัง ภายหลังจากนี้ต๊อบจำเป็นต้องเริ่มชีวิตใหม่ด้วยตัวผู้เดียว โดยมีคุณลุงข้างบ้านและก็ธุรกิจสาหร่ายทอดกรอบเป็นพนันหนสุดท้ายในชีวิต

แน่ๆว่าในหนังเชื้อสายบริการรับส่งพัสดุภัณฑ์พิเศษ ไม่ว่าจะเป็น The Transporter หรือ Baby Driver จะมองเห็นได้ว่าตัวละครที่เป็นตัวละครเอกจำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องอาชญากรรมที่พวกเขาไม่คาดฝัน แล้วก็ตกกะไดพลอยโจนไปกับเหตุการณ์ทั้งสิ้น เช่นเดียวกันกับฮึนฮา ภายหลังที่คุณรับงานสำหรับในการไปรับตัว ดูซิก (ย็อน อู-จิน) ป๊ะป๋าลูกติดที่บังเอิญไปล้มบอลกับนายตำรวจโจคยองพิล (ซงอร่อยยอก) แล้วก็ต้องการจะหนีออกนอกประเทศ แต่ยังไม่ทันจะได้หนีขึ้นรถ ดูซิกก็โดนจับตัว เขาก็เลยให้ลูกชายอย่างซอวอน (จองฮยอนจุน) ไปขึ้นรถของฮึนฮาให้ทันการ

Me Time ก็เลยแปลงเป็นว่าเป็นหนังที่โชคดีที่เพียงแค่พวกเขาได้โอกาสมนักแสดงตัวท็อปมาเสริมบารมี ช่วยประคองตัวหนังเอาไว้แค่เพียงเพียงแค่นั้น เพราะเหตุว่าแน่ๆว่า “เควิน ฮาร์ต” โคจรมาพบกับ “มาร์ค วอห์ลเบิร์ก” ของแพ็คคู่นี้ก็เป็นจุดขายได้ สำหรับภาพยนตร์ตลกหน้าร้อนแล้ว เพียงแต่ว่ารายละเอียดแล้วก็เนื้อในของหนังนั้น ช่างมิได้รับการขัดเกลาและก็ดูแลให้สมหน้ากับศิลปินเบอร์ขนาดนี้มาร่วมแจมเลย

เปลี่ยนเป็นว่า เควิน ฮาร์ต กระโดดมาเล่นภาพยนตร์ตลกที่แทบปราศจากความแปลกใหม่อะไรให้กับอาชีพของเขาเลย ซึ่งก็คือบทเฮฮาเจ็บตัวรวมทั้งแสนจะเร่อร่าด๋อ พร้อมทั้งอีกทั้งค่อนข้างจะน่าเบื่อหน่ายไปหน่อยในบางช่วง ถึงแม้ว่าพรสรรค์ทางการแสดงในหนังแนวนี้ยังคงเข้าทางเขาอยู่ตลอด แม้กระนั้นอะไรๆก็ตามมองซ้ำๆซากๆไปหมดแล้ว

หรือการเอาความเกี่ยวข้องระหว่างมาโกโตะกับอันโดมาเอ๋ยถึง ‘ความธรรมดา’ ในความเกี่ยวข้องก็ถือว่าเชิญคิดและก็คิดถึงความเจ็บที่ทั้งสองจะต้องพบเจออยู่ไม่น้อย มีปริศนาหนึ่งที่อันโดถามมาโกโตะว่าถ้าหากเขากับเมียของมาโกโตะจมน้ำเขาจะเลือกช่วยผู้ใด ซึ่งความเงียบของมาโกโตะก็เป็นคำตอบเจริญที่สุดถึงความโลเลของเขา เพราะว่าจะเลือกทางไหนก็ไม่ดีทั้งหมด แต่ว่าถึงจุดหนึ่งเขาก็จำต้องเลือกซึ่งแน่ๆว่ามันจะต้องมีผู้ที่ปวดเป็นปกติอยู่แล้ว

เมื่ออึนฮา รับซอวอนมา คุณรู้สึกตัวในทันทีว่าอันตรายกำลังหาดวงใจรถยนต์ก้านคอคุณ เมื่ออึนฮาถูกตามล่าอย่างไม่ลดละ สกิลการขับขี่รถเอาชีวิตรอดยังน้อยเกินไป เมื่อคุณศึกษาและทำการค้นพบว่าสิ่งที่ซอวอนรับฝากมาจากบิดาของเขาเป็นกุญแจรหัสสำหรับเพื่อการเปิดตู้นิรภัย ซึ่งโจคยองพิลควรต้องชิงมาและก็พากเพียรจะฆ่าเพื่อปิดปากซอวอนในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์ที่ทราบเหตุการณ์เรื่องราวทั้งผอง

ตลอดตามทางของ Special Delivery กล่าวได้ว่าเป็นสูตรสำเร็จในหนังอาชญากรรมที่ผู้ชมผ่านตามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หนังฟรีไม่กระตุก แม้กระนั้นอาจจะจำเป็นต้องพูดว่างานนี้ ผู้กำกับอย่างพัค แดมิน ทราบจังหวะจะโคนสำหรับในการทำหนังแอ็คชั่นให้ออกมาสนุกสนานตื่นเต้น ฉุนเฉียว กระทั่งกล่าวได้ว่าตลอด 109 นาทีนั้น เป็นความสำราญใจแบบนอนสต็อป

เหมือนกันกับ มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ที่ให้ตายเหอะ…บทอย่างนี้ใครๆก็มาเล่นก็ได้ เขาเปลี่ยนมาเป็นซุปตาร์ที่เพียรพยายามสร้างความแปลกใหม่ท้าให้กับอาชีพของตน แปลกวเดิมๆที่ไม่มีความจำเป็นต้องวนเวียนอยู่แต่หนังบู๊ ทำให้ตอนยุคนี้เขาหันมาเลือกเล่นหนังดราม่ารวมทั้งภาพยนตร์ตลกบ้าๆบอๆเยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็หนังหัวข้อนี้ก็คงจะตอบปัญหาความสนุกสนานของเขา เนื่องจากว่ามันเป็นหนังที่บทค่อนกลวงมากมายทีเดียว

แม้ว่าใจความสำคัญของหนัง Me Time จะเกริ่นเอาไว้ค่อนข้างจะน่าดึงดูด กับปัญหาพ่อบ้านเต็มกำลังที่จัดแจ้งทุกอย่างในบ้าน เปลี่ยนเป็นหัวหน้าในครอบครัวอย่างน่าพิศวง จนกระทั่งทำให้เขาเกือบจะไม่ว่างให้กับตนเองเลย แม้กระนั้นเมื่อสบโอกาสรวมทั้งช่องทางที่เป็นของตนเอง เขาก็เลยเลือกที่จะทำอะไรที่ตนเองต้องการทำ ปัญหานี้ถ้าหากแปลความเป็นหนังดราม่านิดๆเฮฮาหน่อยๆก็คงจะได้ฟีลที่ดีอีกฟีล แม้กระนั้นเมื่อเลือกเดินทางนี้ก็จะต้องเป็นอย่างงี้นั่นแหละ

บางครั้งก็อาจจะจำต้องเห็นด้วยว่า Special Delivery ไม่ใช่หนังที่เพอร์เฟ็ค เนื่องจากว่าเรื่องความเป็นเหตุเป็นผล หรือความชำนาญของตัวสำคัญที่น่าสงสัยอยู่ว่าคุณไปฝึกซ้อมวิชาขับขี่รถตีผีอย่างนี้มาจากไหน รวมถึงสกิลการต่อสู้สุดระห่ำด้วย ยังไม่รวมถึงจุดหักเหในส่วนท้ายเรื่องที่ตั้งหัวใจทำมาเพื่อผู้ชมได้ยิ้มก่อนกลับไปอยู่ที่บ้าน แต่ว่าเมื่อพวกเราปิดตาสักข้างหนึ่งแล้วก็ละเลยสิ่งพวกนี้ไป พวกเราจะพบว่านี่เป็นหนังแอ็คชั่นประเทศเกาหลีอีกหัวข้อที่ไม่สมควรพลาดดูในโรงภายนตร์นะครับ

หนังสร้างแรงดลใจในตำนานของ ต๊อบ ฤทธิ์ภัท ที่สร้างธุรกิจเถ้าแก่น้อยขึ้นมาด้วยสองมือแล้วก็หนึ่งหัวใจที่ซุกซน แต่ว่านั้นก็ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นคนรวยมาตราบจนเวลานี้จ้ะ หัวข้อนี้ได้ พีช พชร เข้ามารับหน้าที่ถ่ายทอดแรงผลักดันจากคุณต๊อบสู่วัยรุ่นไทยทุกคน เวลาที่หนังออกฉายหนแรกนี่พูดได้ว่าเรื่องราวของเขาทำให้วัยรุ่นไทยคนไม่ใช่น้อยกล้าที่จะเดินตามความฝันแล้วก็รู้สึกเกิดกำลังใจขึ้นมาอย่างยิ่งจริงๆจ้ะ

รีวิว Hachi : A Dog’s Tale

เรื่องราวที่แสนจับใจถูกถ่ายทอดโดย รอนนี่ หลานชายสุดสวย ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ปู่ขว้างร์กเกอร์ เก็บลูกหมาหลงทางตัวหนึ่งมาเลี้ยง ภายหลังเพื่อนฝูงของเขาพูดว่าหมาตัวนี้เป็นสายพันธุ์ประเทศญี่ปุ่นเขาก็เลยตั้งชื่อมันว่า ฮาชิ ที่แปลเลขลำดับ 8 ในภาษาประเทศญี่ปุ่นและก็สื่อความหมายแอบแฝงถึงความมีโชค ปู่บากบั่นฝึกฝนฮาชิให้ประพฤติตามคำบัญชากล้วยๆอย่างการคาบลูกฟุตบอลแม้กระนั้นดูเหมือนจะไม่มีความสำเร็จมากนัก

แต่ว่าถึงอย่างงั้นทั้งสองก็สนิทกันเพิ่มมากขึ้นแล้วก็ฮาชิก็มีส่วนร่วมในเรื่องสำคัญของครอบครัวหลายต่อหลายคราว กิจวัตรที่ทำเป็นประจำของฮาชิคือการไปรับรวมทั้งไปส่งปู่ที่สถานีรถไฟ แม้กระนั้นแล้วทุกสิ่งก็แปรไปเมื่อปู่เดินเข้าไปในสถานีรถไฟและไม่เคยกลับออกมาอีกเลย ในขณะที่ฮาชิเองก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยปู่ของเขาที่เดิมทุกเมื่อเชื่อวันจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต

เอาว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น Me Time บางทีอาจจะมิได้กล่าวว่าเป็นหนังที่ผิดหวัง เนื่องจากว่าก็ไม่คาดหมายใดๆก็ตามอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามันเป็นหนังที่มีส่วนประกอบรวมทั้งประสิทธิภาพที่ดีเลิศในตัวมันมากมายๆเพียงแค่ยังไม่อาจจะนำที่ตรงนั้นมาทำให้มีคุณประโยชน์ต่อประสิทธิภาพของหนังสักเท่าไหร่ ท้ายที่สุดก็เปลี่ยนเป็นเพียงแต่ภาพยนตร์ตลกมุกเดิมๆทั้งยังการปฏิบัติแผลงๆความฮาแบบขำแห้งๆช่างเป็นโอบล้อมที่ออกจะโชคร้ายไปสักนิด เนื่องจากว่าพวกเขาได้โอกาสมงานแล้วก็ดาราระดับนี้มาเชียวนะ

เมื่อเอ่ยถึงหนังสยองขวัญแนวไล่เฉือนแล้ว ชอบมีสูตรสำเร็จหรือการกระทำที่ก่อให้ผู้แสดงในเรื่องถึงแก่ชีวิตหรือแปลงเป็นเหยื่อของคนร้าย พวกเราลองมองแนวทางเอาชีวิตรอดของตัวสำคัญอย่าง “ซิดนีย์” จากหนังเรื่อง Scream กันเลยดีกว่า ตั้งแต่ Scream ภาคแรกที่ทำขึ้นในปี 1996 ผู้แสดงอย่างซิดนีย์ เพรสกอต (นีฟ แคมป์เบล) เปลี่ยนเป็นตัวเอกชนิดไฟนอลเกิร์ล (Final Girl)

หรือเพศหญิงคนท้ายที่สุดที่เอาชีวิตรอดมาจากการตามล่าของคนร้ายได้เสร็จ มากมายไปกว่านั้นเป็น คุณยังมีวิธีการเอาชีวิตรอดที่ฉลาดมากจริงๆแล้วก็น่าดึงดูดอยู่เป็นประจำ ตั้งแต่หนังภาคแรก หนังฟรีไม่กระตุก จนกระทั่งเรื่องราวในหนังภาคปัจจุบัน Scream (2022) นักแสดงนี้ได้โลดแล่นอยู่ในจักรวาลของตนเองตรงเวลาร่วม 26 ปีเต็มแล้ว

ด้านดาราหนังจะต้องสารภาพว่าอีกทั้ง อันทุ่งนา ยามาดะ รวมทั้ง ค้างไม่โอะ ฟูจู มีเคมีบนหน้าจอที่พอดีมากมายๆอย่างยามาดะเองก็หมั่นตกให้ชายหนุ่มๆลุ่มหลงคุณได้ไม่หยุดหย่อนตลอดทั้งเรื่อง แล้วก็พอเพียงถึงซีนดราม่าพวกเราก็พร้อมจะเสียน้ำตาไปกับคุณได้ ด้าน ค้างไม่โอะ ฟูจู ก็กลับหน้าที่จากอันธพาลโก้ๆใน ‘High and Low The Worst’ มาสู่บทเกย์ชายหนุ่มที่ราวกับหาที่ยืนตนเองในสังคมมิได้จนถึงพวกเราอดรู้สึกเห็นอกเห็นใจแล้วก็สลดบาดลึกไปกับเขามิได้เลย

ท่ามกลางโอบล้อมในสมัยที่แวดวงหนังถูกรายล้อมไปด้วยหนังจำพวกซูเปอร์วีรบุรุษผลิตออกมาสม่ำเสมออยู่บริเวณตัวเรา ถ้าว่าคุณยังไม่เคยรู้สึกเบื่อกับหนังแนวนี้ การมาอีกหนึ่งช่องทางใหม่ของหนังวีรบุรุษเรื่องปัจจุบันก็บางทีอาจจะสะดุดตาและก็สะกิดใจได้อยู่ไม่น้อย เพราะเหตุว่าเป็น “Samaritan” หนังแอคชั่นวีรบุรุษเรื่องปัจจุบันที่ได้แอคชั่นไอค่อนในตำนาน “สิลเวสเตอร์ สตอลโลน” มาผงาดในฐานะวีรบุรุษเต็มกายอย่างเป็นทางการ เมื่อคนอึด..มาเป็นวีรบุรุษที่มีชุดประจำกาย มันจะออกมาเป็นเยี่ยงไร?

สรุปแล้วหนัง ‘What She Likes’ สร้างเซอร์ไพรส์ให้ผมไม่น้อยเลยนะครับ เนื่องจากว่าเห็นด้วยว่าหนังโรแมนติกวัยรุ่นของประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่แนวที่ผมพึงพอใจมากแค่ไหน แต่ว่าจากบทหนัง การแสดงแล้วก็ส่วนประกอบต่างๆของหนังก็ทำให้ยากล่ะครับผมที่ผู้ใดกันแน่ได้ดูแล้วจะไม่หลงเสน่ห์มันสำหรับหนังภาคปัจจุบันนักวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อต่างถิ่น ล้วนมีความคิดเห็นว่าผู้แสดงซิดนีย์ เติบโตขึ้น แกร่งขึ้น

และก็ฉลาดมากจริงๆขั้นตามยุคสมัย คุณได้แปลงเป็นเมียรวมทั้งม่าม้า มีความอาจหาญแสดงออก มีการตกลงใจในชีวิตที่เด็ดขาด ทรหดอดทนแล้วก็รอมชอมกับศัตรูลดลง กลุ่มนี้เป็นความก้าวหน้าของผู้แสดงที่ได้ทำความเข้าใจเรื่องราวต่างๆสถานะการณ์การฆ่าที่เกิดขึ้นในบ้านกำเนิดอย่างวู้ดส์โบโร่ กระทั่งพวกเราสามารถเอามาถอดเป็นบทเรียนชีวิตได้ดังต่อไปนี้

ว่ากันว่าหมาเป็นเพื่อนที่สัตย์ซื่อที่สุดในโลก และก็มันก็ถูกพิสูจน์โดยฮาชิ หมาสายพันธุ์อากิตะที่เปลี่ยนมาเป็นเครื่องหมายที่ความซื่อสัตย์ โดยหนังหัวข้อนี้ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากหนังประเทศญี่ปุ่นเรื่อง Hachikō Monogatari ที่ผลิตขึ้นจากข้อเท็จจริงของศ.จ.ฮิเดซาบูโร อูเอโนะ แล้วก็ฮาชิโกะ หมาคู่ใจ เรื่องราวของพวกเขาทั้งสองเปลี่ยนเป็นตำนานที่ความซื่อสัตย์ที่ทำให้หลายท่านจำต้องเสียน้ำตา

Samaritan เกิดเรื่องราวของ แซม เด็กผู้ชายวัย 13 ปี ที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับการหาตัวตนของซูเปอร์วีรบุรุษของเมืองแกรนิตสิตี้ ที่ถูกกล่าวขวัญถัดมากันยาวนานหลายปี อย่าง ซามาริทัน และก็เมื่อเขาได้พิจารณาแล้วก็สะสมแนวคิดต่างๆก็พบว่า โจ สมิธ คนเก็บขยะวัยแก่บ้านพักอยู่อะพาร์ตเมนต์ฝั่งตรงข้าม เข้าเกณฑ์ที่ทำให้แซมสงสัยว่าเขาคนนี้จะเป็นวีรบุรุษที่สูญหายไปภายหลังจากเหตุการสิ้นไปเมื่อ 20 กว่าปีกลาย

แล้วก็เวลานี้เมืองที่เริ่มเน่าเฟอะด้วยอาชญากรรมมากขึ้นทุกเมื่อเชื่อวันๆมันยิ่งสนับสนุนทำให้แซมมีแพสชั่นที่ต้องการจะปลุกพลังให้ ซามาริทัน กลับมาผงาดรวมทั้งตระเตรียมเมืองนี้ให้สะอาดน่าอยู่เพิ่มขึ้น เดี๋ยวนี้รูปปั้นของฮาชิโกะตั้งอยู่หน้าสถานีชิบูคุณย่าแล้วก็เปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเมืองโตเกียว รวมทั้งเรื่องราวของทั้งสองก็ถูกตำหนิพิมพ์แล้วก็แปลเป็นภาษาต่างๆทั่วทั้งโลก

ย้อนกลับไปในหนังภาคแรก ชนวนความอลหม่านแล้วก็เหตุการฆาตกรรมทั้งสิ้น ล้วนโยงใยกับการถึงแก่กรรมของมัวรีน เพรสก็อต แม่ของซิดนีย์ ทำให้ตัวซิดนีย์เองกำเนิดความข้องใจในตัวของค็อตตอน (ลีฟ ชไรเบอร์) ชู้รักของแม่คุณ betflikusa ว่าเขาเป็นคนร้ายที่กำลังลอยนวลอยู่ แต่ว่าเรื่องราวทั้งสิ้นได้ขมวดปมที่ว่า คนร้ายตัวจริงนั้นเป็นแฟนชายหนุ่มของซิดนีย์อย่างใบเสร็จรับเงินลี่ ลูมิส (สกีต อูลริช) ผู้สมคบกับสตู (แมทธิว ลิลลาร์ด) จากสถานะการณ์สะเทือนใจ