romance songs หนัง ดูหนังฟรี ดูหนัง เว็บดูหนังออนไลน์
romance songs แล้วก็อีกเสน่ห์ของหนังประเด็นนี้ก็อาจจะหนีไม่พ้นเรื่องของดาราหนังคู่ขวัญอย่างคลูนีย์รวมทั้งโรเบิร์ตนี่แหละครับผม ทั้งสองกล่าวได้ว่าเป็นส่วนสำคัญสำหรับความรื่นเริงใจของตัวหนังอย่างแท้จริง ถ้าเกิดนี่เป็นการทำกับข้าว ทั้งคู่คนก็คือวัตถุดิบคุณภาพดีระดับพรีเมียมจริงๆล่ะครับผม ลำพังเพียงแค่ฝีมือด้านการแสดง และก็เคมีของทั้งสองในฐานะเพื่อนสนิททั้งยังในหน้าจอรวมทั้งนอกจอนี่ก็กล่าวได้ว่าเชื่อมือได้ในระดับหนึ่งแล้ว เพียงพอยิ่งจะต้องมารับบทในฐานะอดีตกาลสามีภรรยาคู่ปรับที่พบกันเป็นมิได้ จำต้องจิกกัดขอคืนดีงแง้งไม่เว้นวาย
ทั้งสองก็สามารถเป็นคู่ปรับคู่หูได้ออกมาเข้ากัน กลมกล่อมละมุนละไมและก็มองสนุกสนานมากมาย romance สำหรับนักเขียน ตอนได้มองเห็นทั้งสองโต้เถียงจิกกัดใส่กันนี่เป็นสนุกสนานมากมายซะจนกระทั่งต้องการที่จะให้ทั้งสองต่อปากหลากคำกันอีกจำนวนมากไปเลย หรือไม่ก็สร้างภาค 2 ให้ทั้งสองจิกขัดขวางอีกทั้งเรื่องไปเลยก็ได้นะ (555) แต่ว่าเวลามีซีนกระจู๋กระจี๋มุ้งมิ้งกันในฐานะอดีตกาลคู่ครองรุ่นใหญ่นี่ก็จัดว่าทำเป็นน่ารักน่าเอ็นดูแล้วก็มีเสน่ห์สมหน้าคู่ขวัญศิลปินรุ่นใหญ่จริงๆ
นอกนั้นเนื้อหาของภาพด้านในเรื่องก็ทำเป็นดียิ่งขึ้น ผู้แสดงขยับได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีการแสดงความรู้สึกทางสีหน้าท่าทางแล้วก็แววตา เส้นขนพลิ้วไหวได้เหมือนจริงมาขึ้นอย่างชัดเจน แนวทางการลอยละล่องของกลีบดอกทำเป็นเนียนขึ้น รวมทั้งเปลวแต่ละดวงมีลักษณะที่แตกต่าง ถือได้ว่าเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นที่ปรับปรุงขึ้นกว่าภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องอื่นที่ถูกทำขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน แม้กระนั้น Kung Fu Panda 3 คงจะชื่นชอบเด็กๆรวมถึงวัยรุ่นตอนแรกได้อย่างง่ายดาย
แม้กระนั้นจะเรียกว่าเป็นภาพยนตร์การ์ตูนสำหรับครอบครัวก็คงบอกได้ไม่เต็มปาก เพราะว่าการติดต่อสื่อสารของนักแสดงยังเป็นไปในแบบที่ยังไม่สลับซับซ้อนมากเท่าไรนัก ดังเช่น บิดากับโพพบกันง่ายเกินความจำเป็น เจอกันและจากนั้นก็วางใจและก็เดินทางตามไปในทันที โดยที่เกือบจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเลย ที่จริงถ้าเกิดเพิ่มเติมเรื่องราวบางสิ่งบางอย่างลงไปให้น่าตื่นตาตื่นใจกว่านี้ก็จะดีเลิศ
หนังหัวข้อนี้เล่ามุมมองความรักของ ฟ้า (เต้ย จรินทร์พร) สาวผู้เคยเชื่อในโชคชะตาที่จะทำให้คุณพบรักจริง แต่ว่าความผิดพลาดในความเกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทำให้ ฟ้า ไม่เชื่อเรื่องโชคชะตาอีกต่อไป ตราบจนกระทั่งมาเจอกับ เซน (บอย ปกรณ์) โดยบังเอิญระหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับกลุ่มเพื่อนฝูงๆต่อจากนั้น ฟ้า กับ เซน ก็ได้บังเอิญเจอะกันอีกหลายหนจนถึง เซนพนันกับฟ้า ว่าความบังเอิญนี้เป็นโชคชะตาของทั้งสอง แต่ ฟ้า เอง ก็มีเพื่อนชายสนิทอย่าง เต้ (หฝ่าส์ สก็อต) ที่แอบรัก ฟ้า มานานแล้วเช่นกัน
‘Ticket to Paradise’ นี่พูดได้ว่าเป็นหนังรอมคอมผสมหนังครอบครัวที่หากว่าทรงของเรื่องจะคลาสสิกตามขนบจนกระทั่งแอบทายใจเรื่องง่ายไปบ้าง แม้กระนั้นก็ถือได้ว่าหนังที่มองได้แบบเพลิดเพลินๆได้อยู่ครับ มีมุกแดนนรกที่ฮาโดนเส้น เป็นหนังฟีลอบอุ่นชักชวนยิ้มที่หลายๆคนบางทีอาจนึกถึง (เพราะเหตุว่ามิได้มองมานานแล้ว) ถ้าหากเป็นของกิน นี่ก็อาจเป็นรายการอาหารกล้วยๆที่อร่อย ย่อยง่าย อิ่มง่าย
เป็นหนังไม่มีอันตรายที่คงจะเหมาะกับคู่แต่งงานรวมทั้งครอบครัว หรือไม่ก็เป็นหนังเอาไว้มองแก้ปวดศรีษะจากเรื่องราววุ่นวายที่อยู่นอกโรงภาพยนต์สำเร็จชะงัดนักแล หรือจะไปดูผู้เดียวก็ยังเพียงพอไหว เพราะว่ามิได้สวืทหวานมันกระทั่งเกินงาม หรือขั้นต่ำไปดู จอร์จ คลูนีย์ ปะทะฝีปากขอคืนดีงแง้งกับ จูเลีย โรเบิร์ต คนเขียนเองก็มีความรู้สึกว่าคุ้มอยู่ครับผม นี่เป็นผลงานของผู้กำกับ “เจฟฟ์ แวดโลว์”
ที่พวกเราชอบเคยชินงานชิ้นก่อนๆของเขาที่ค่อนข้างจะดิบพอได้ อย่าง Kick-Ass 2 หรือ Truth or Dare แม้กระนั้นมาครั้งนี้จัดว่าเขาปรับโหมดตนเองระดับสูง เพราะเหตุว่าเปลี่ยนเป้าหมายมาทำหนังสยองขวัญแฟนตาซีที่ค่อนข้างจะใสๆไม่มีอันตราย เป็นหนังฮาโลวีนที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จตามมาตรฐานของหนังงแนวนี้ ที่พวกเราเคยได้มองมาก่อนตลอด 20-30 ปีให้หลัง
บทหนังของ The Curse of Bridge Hollow ก็มิได้มีกลเม็ดเด็ดพรายอะไร ด้วยเหตุว่าทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเป็นสูตรสำเร็จพื้นๆที่จับเอามาเล่าใหม่ ราวกับเป็นการถือจากประเด็นนั้นหัวข้อนี้มายำรวมเข้าไว้ภายในเรื่องเดียวกัน โดยจับเอาภูติผีปีศาจในตำนานต่างๆที่เคยรู้จักมาปลุกเสกให้ผู้ชีวิตแบบชุ่ยๆโดยใช้บรรทัดฐานของหนังครอบครัวเป็นหลัก ออกมาเป็นหนังที่มองได้ฆ่าเวลาเพลิดเพลินๆจุดสำคัญไม่เยอะแค่ไหน ก็หลอนสนุกสนานไปตามเนื้อเรื่องของมัน
รีวิว Terminator Genisys
คนเหล็ก มหาวอดวายจักรกลยึดโลก – คุ้มน่าดู ไคล์ รีส (รับบทบาทโดย ไจ คอร์ตนี่ย์) มือขวาของจอห์น คอนเนอร์ (สวมบทโดย เจสัน คลาร์ก) ถูกส่งย้อนเวลากลับมาเพื่อช่วยเหลือ ซาร่า คอนเนอร์ (เอมิเลีย คลาร์ก) ซึ่งเป็นแม่ของจอห์น แน่ๆว่าการช่วยเหลือมันก็ไม่ใช้ว่าจะง่ายถางเนื่องมาจากจะต้องหนีการตามล่าของหุ่นยนต์ T-1000 (เล่นบทโดย ลี บยอง ฮอน) ไปด้วย ขณะดียวกันการ์เดี้ยนรุ่น T-800 (รับบทบาทโดย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์) ก็โดนคู่แข่งที่เหนือมากกว่าเป็นคู่มือ
Kung Fu Panda 3 เหมาะกับเด็ก เพราะเหตุว่าช่วยทำให้เด็กมั่นใจในตัวเอง รักแล้วก็ให้การช่วยเหลือกับเพื่อนฝูง ถือได้ว่าเป็นการปลูกฝังนิสัยที่ดีให้แก่เด็กได้ กราฟิกในเรื่องทำเป็นดี เรื่องราวมีความลื่นไถลไหล แม้กระนั้นวางพลอตเรื่องไว้ง่ายเหลือเกิน ฉากการต่อสู้ทำเป็นดีระดับหนึ่ง โดยรวมถือว่ารักษามาตรฐานเดิมไว้ก้าวหน้าเมื่อเทียบกับภาคที่แล้วมา
เส้นเรื่องของ Gravity of Love ก็มิได้ฉีกหนีจากพลอตละครแบบไทยๆไปเท่าใด ประเทศญี่ปุ่นเองก็ราวกับจะเป็นโลเกชันที่ภาพยนตร์ไทยถูกใจใช้เวลาพระนางเจอรักโรแมนติกกัน เรียกว่าเป็นประเทศที่ถูก ผู้กำกับการ ไทยไปฝ่ากันจนถึงบอบช้ำ (ฮา) นักแสดงทั้งสิ้นก็ยังแบนๆดารานำชายก็พระเอ๊กผู้แสดงนำชาย แสนดี เลิศ โดยเหตุนี้แล้ว นางเอกโก๊ะๆอย่างเต้ย ย่อมเป็นตัวละครที่สะดุดตาที่สุดในเรื่อง ซึ่งก็จะต้องสารภาพจริงๆนั่นแหละว่าคุณน่ารักน่าเอ็นดูแจ่มใสจริงๆในหัวข้อนี้ ไม่ว่าจะลุคไหนก็ปัง ถ้าหากจะกล่าวตามตรง หนังประเด็นนี้ขายพระนางแบบว่าเรื่องราวช่างแม่ง ที่เหลือเอาฮา
จังหวะของหนังก็แทบจะไม่มีอะไรใหม่ ใส่มุกรวมทั้งโทนความเป็นภาพยนตร์ตลกชาวผิวสีเข้ามาแบบฐานราก เค้าเรื่องรวมทั้งเสน่ห์ต่างๆก็ยังมาด้วยอารมณ์เดิม ไม่ว่าจะเป็นการผูกเรื่องเชยๆกับแนวความคิดต่างของบิดาลูก หรือมนต์แปลกผีฟื้นคืนชีพ แน่ๆว่าเป็นอะไรที่พวกเราเคยมองอะไรแบบงี้มาแล้วทั้งหมด อาจมีมุมที่ทำให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิดรำคาญในตรรกะของนักแสดงบ้าง แม้กระนั้นก็มิได้ซีเรียสอะไร
ทางด้านการแสดงนั้นก็นับว่าเป็นจุดการช่วยเร่งเร้าอารมณ์ได้ค่อนข้างจะดี ถึงแม้ว่าแอคติ้งของพวกเขาจะมิได้ดิบดีหรือแปลกใหม่อะไรเลย “มาร์ลอน เวย์นส์” ก็ยังคงเป็น มาร์ลอน เวย์นส์ เขายังคงใช้เสน่ห์ทางการแสดงต้นแบบของเขาเองมาใส่ไว้ในประเด็นนี้ ทั้งยังมุกแล้วก็จังหวะที่มีอีกทั้งไหลลื่นรวมทั้งอัตคัด แต่ว่าถือว่าเขาเป็นตัวละครที่ช่วยเคลื่อนหนังไปได้ ถึงจะรสออกจะจืดชืดไปนิดก็ตาม
เรื่องราวเริ่มเมื่อกษัตริย์ริชาร์ดดวงใจราชสีห์ (Ian Hunter) ได้หายสาปสูญไป ทำให้พระราชโอรสจอห์น (Claude Rains) คิดชุบมือเปิบครองบัลลังก์ แม้กระนั้นกลยุทธ์ณ์ที่ว่าไม่บางทีอาจเสร็จได้อย่างสะดวกสบายเมื่อโรบินที่ล็อกซ์เลย์ (Errol Flynn) ตั้งอกตั้งใจเข้าขวางโดยทำการศึกกับทรราชย์แล้วก็ชิงทรัพย์สดมภ์คนโฉดเพื่อเผื่อแผ่คนยากจน ภาพรวมก็จะต้องพูดว่าตัวหนังมองได้เพลิดเพลินๆ
จากสีสันของแคแร็คเตอร์สมทบที่เรียกเสียงเฮได้เป็นระยะ รายละเอียดทายใจได้ตั้งแต่ 5 นาทีแรกอยู่แล้วราวกับละครไทยเรื่องหนึ่ง ได้เห็นภาพงามๆจากฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่น ได้มองเห็นเต้ยในลุคต่างๆโน่นเป็นสีสันที่นำพาเรื่องไปตลอดรอดฝั่ง romance songs อย่างไรก็แล้วแต่ ช่องโหว่ก็มากมาย หน้าที่ความเชื่อมโยงของนักแสดงอื่นๆกลับเกลี่ยน้ำหนักได้ไม่ดี ไม่น่าสนใจเลยแม้แต่น้อย
แคสมิได้ เคมีไม่ออก แคสเนี่ย ผมจะกล่าวว่ามันราวกับแคสมาให้ครบๆเป็นสิ้นเรื่องออกมา ไม่มีภาพจำอะไรกับความข้องเกี่ยวหลายๆคู่เลย เว้นเสียแต่กะเทยป้าที่ขบขันสร้างสีสันได้ บางช่วงเห็นด้วยว่าบรรยากาศแทบจะไปถึงพวก สายจับบ้านเล็ก หรือแม้กระทั้ง กวนมึนโฮ อะไรเทือกนั้นแล้ว แม้กระนั้นท่าทางผู้แสดงก็ปราศจากความสะดุดตาต่างกันมากพอ ตัวเรื่องเปิดมาด้วยการเล่าถึงวิถีชีวิตกรรมกรเหมืองแร่ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ผูกพันกันเสมือนญาติพี่น้อง
กรรมกรเหมืองแร่ทุกคนทราบถึงการเสี่ยงอันตรายที่กำลังจะได้รับดี แต่ว่าด้วยค่าแรงงานที่สูงกว่างานทั่วๆไปก็เลยจำต้องยอมเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ก่อนที่จะว่าตัวภาพยนตร์กันอย่างเจาะลึก จะต้องขอสรรเสริญผู้กำกับ Patricia Riggen ที่มีมมุมมองสำหรับในการจัดวางภาพส่วนประกอบเจริญ ทำให้ภาพออกมางดงาม มองเห็นผู้แสดงหลัก แล้วก็สิ่งแวดล้อม รวมถึงเล่าความโหฬารของเหมืองใต้ดินผ่านภาพให้ผู้ชมรู้เรื่องได้ง่าย
ยิ่งไปกว่านี้ การดำเนินเรื่องที่อุตสาหะจะปรับแนวทางเล่าให้น่าดึงดูด แม้กระนั้นก็ทำเป็นไม่ดีพอเพียง หนังไม่มีลายเซนต์อะไรก็ตามให้จำ เสมือนมองละครข้างหลังข่าวสาร สิ่งที่คุณจะได้เป็นความน่ารักน่าเอ็นดูแจ่มใสของเต้ย ความโก้ของบอย บรรยากาศรวมทั้งโลเกชันงามๆของประเทศญี่ปุ่น ที่เหลือก็ความรักเห่อเหิมมอมเมาตามประสาละครไทยเพียงแค่นั้น หาใช่แรงดึงดูดของโชคชะตา
รีวิวThe Greatest Beer Run Ever
เหมาะสมแล้วล่ะที่สร้างมาสตรีมไม่ง ชายหนุ่มนิวยอร์กนาม จอห์น ชิกกี้ โดโนฮิว (Chickie Donohue)สร้างความกล้าหาญบ้าดีเดือดด้วยการหอบเบียร์สดกระป๋องใส่กระเป๋าใบโต แล้วแรมรอนเดินทางโดยเรือตรงเวลา 2 เดือน เพื่อเอาเบียร์สดไปฝากเพื่อนพ้องๆที่ถูกหลักเกณฑ์เป็นทหารไปรบในเวียดนาม เรื่องราวของเขานี้ พูดได้ว่าเป็นตำนานที่ถูกกล่าวขานกันมายาวนานตั้งแต่ปี 1967 ที่เขาก่อความกล้าหาญในปีนั้น แล้วถูกเล่าต่อเป็นบทความในวารสารหลายเล่ม จนถึงในปี 2017 เรื่องราวนี้ก็ถูกเผยแพร่เป็นหนังสือชื่อ The Greatest Beer Run Ever: A Memoir of Friendship, Loyalty, and War เขียนโดยตัว ชิกกี้ โดโนฮิว เอง ร่วมกับ เจ.หน. มัลรอย (J. T. Molloy) อดีตกาลผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ NY Daily News
แม้กระนั้นเว้นแต่มุมมองการเล่าเรื่องผ่านภาพแล้วตัวบทค่อนข้างจะอ่อนไปสักนิดสักหน่อย เพราะเหตุว่าจับอีกทั้งข้อความสำคัญชีวิต จับเรื่องการเอาชีวิตรอด แล้วก็การช่วยเหลือเกื้อกูลจากด้านนอก ภายในช่วงระยะเวลา 127นาที ก็เลยทำให้เจาะเข้าไปในหัวข้อต่างๆได้ไม่ลึกพอเพียง ทำเป็นแค่เพียงเห็นภาพรวมของแต่ละใจความสำคัญโดยอย่างคร่าวๆ อาทิเช่นความเหนื่อยยากสำหรับเพื่อการดำรงชีวิตในเหมืองใต้ดินที่มีของกินอยู่อย่างจำกัดกี่ก่อนจะได้รับการเกื้อกูล อาการเหงาหงอยต่างๆที่ผู้เจอเหตุ แม้กระนั้นมีสิ่งหนึ่งที่ภาพยนตร์สามารถสื่อออกมาได้อย่างดีเยี่ยมเลยเป็นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว รวมทั้งเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันของชาวเหมือง
โดยสาเหตุมาจากที่ความกล้าหาญของชิกกี้นั้น เป็นการปฏิบัติที่ระห่ำ หาญกล้า แล้วก็มีความหุนหันพลันแล่นของชีวิตวัยรุ่นที่เล่าต่อจำนวนกี่ครั้งก็ยังบันเทิงใจ หากแม้เรื่องราวจะผ่านมากมายว่า 50 ปีและก็ตาม สมกับที่ชิกกี้เองก็บ่นว่าเบื่อที่จะเล่าราวนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนถึงชิกกี้พูดว่าเลิกกันที แต่แล้วเมื่อตอนปี 2015 ความกล้าหาญของชิกกี้ก็กลับมาเป็นที่กล่าวถึงอีกทีเมื่อคณะทำงาน Pabst Blue Ribbon ได้ถ่ายทอดตำนานนี้ออกมาในรูปสารคดี 13 นาที เนื่องในวันทหารที่เคยออกรบ มีผู้ชมไปแล้วกว่า 1 ล้านครั้ง ถึงที่ตรงนี้ ชิกกี้ก็เลยตกลงใจเล่าความกล้าหาญของเขาออกมาเป็นหนังสือมันซะเลย แต่ว่าความกล้าหาญสุดขั้วของเขาก็ยังไม่จบลงไปกล้วยๆเมื่อสตูดิโอ Skydance Media ตกลงซื้อลิขสิทธิ์หนังสือมาสร้างเป็นภาพยนตร์
ตกลงว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น The Curse of Bridge Hollow ก็นับได้ว่าเป็นหนังสยองขวัญแฟนตาซีที่มองได้เพลิดเพลินๆแต่ว่ามิได้มีอะไรให้น่าจำอะไร romance songs อารมณ์เสมือนนั่งดูหนังแนวนี้สมัยใหม่ๆอย่าง The House with a Clock in Its Walls หรือ Goosebumps เอามาแต่งใหม่ที่ออกมาในรสที่มิได้ต่างมากเท่าไรนัก ถึงจะมีบทที่เชยแสนชาย แม้กระนั้นหนังก็ยังมีจังหวะที่พอดีไปได้กับการหนีและก็ประจันหน้าสู้กับผี ที่แน่ๆว่า..พวกเราทราบตอนสุดท้ายของหนังตั้งแต่เริ่ม
อย่างไรก็ตามการเล่าเรื่องมุมกว้างอย่างนี้ก็ทำให้ผู้ชมได้มองเห็นเรื่องราวหลายๆด้าน ทำให้ผู้ชมมีความรู้ความเข้าใจในมุมมองของแต่ละภาคส่วนว่ามีความคิดเห็นเช่นไรต่อเหตุอย่างนี้ อย่างผู้ครอบครองเหมืองที่มองเห็นชีวิตของคนงานเหมืองแร่พวกนี้ไม่มีค่าความหมาย คิดจะปลดปล่อยให้ตายทั้งเป็นด้วย รวมถึงภาครัฐที่มองดูการเกื้อกูลเป็นใบหน้าเกี่ยวเนื่องกับหน้าที่การงานของตน ซึ่งถ้าเกิดตัวบทเลือกที่จะเจาะหัวข้อเดียวอย่างถ่องแท้ betflikusa ก็จะก่อให้ผู้ชมไม่เอาจเข้าถึงมุมมองจากหลายๆข้าง ก็มีจุดเด่นข้อด้อยกันไปตามแต่ความพอใจขอรับแบบงี้
