ซีรี่ย์ซับไทย ดูหนังง่าย ไม่มีโฆษณากวนใจ ครบทุกรส ทุกแนว

ซีรี่ย์ซับไทย ไม่มีโฆษณากวนใจ

ซีรี่ย์ซับไทย  Old People กำเนิด แก่ กัน ตายประเด็นนี้เป็นหนังสยองขวัญที่อาจจะเอาไอเดียจากปัญหาราษฎรผู้สูงวัยมากยิ่งกว่าวัยทำงานที่ทุกประเทศกำลังพบเจออยู่ มาดัดแปลงกับแนวซอมบี้ตามแฟชั่น จนถึงเปลี่ยนมาเกิดเรื่องนี้ที่เสมือนหนังซอมบี้เวอร์ชั่นคนวัยแก่นั่นเองเป็นหนังสยองขวัญ มีบางช่วงขณะที่ดีจังๆโชคร้ายที่พวกมันมีน้อยเหลือเกินรวมทั้งห่างกันมากเกินความจำเป็น แต่กระนั้น ระยะเวลาพวกนี้แสดงให้ท่านมีความเห็นว่าหนังสยองขวัญเยอรมันหัวข้อนี้ดีขนาดไหนElla Wagner (เล่นบทโดย Melika Foroutan)

แม่บ้านลูกสอง ที่พาลูกๆมายังเขตชนบท เพื่อร่วมงานแต่งของ Sanna (เล่นบทโดย Maxine Kazis) น้องสาวของคุณ อีกทั้งบุตรสาวคนโตอย่าง Laura (รับบทบาทโดย Bianca Nawrath) และก็ Noah (รับบทบาทโดย Otto Emil Koch) ต่างดีแล้วใจมากที่พวกเขาจะได้เจอกับตาและก็บิดา (ที่เลิกรากับแม่ไปแล้ว) อีกรอบ ทุกสิ่งดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างธรรมดา จวบจนกระทั่ง Ella ไปที่บ้านพักฟื้นคนชราเพื่อชวน Reincke (เล่นบทโดย Adolfo Assor) บิดาของคุณไปร่วมงานในคืนวันนี้ด้วย ซึ่งทำให้คุณได้เจอกับความประพฤติแปลกๆของผู้สูงวัย ที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการฆาตกรรมกลุ่ม ในเวลาถัดมา

นี่มัน Night of the Living Dead (1968) ชัดๆแม้กระนั้นเปลี่ยนแปลงจากผีดิบไล่กินเนื้อคน เป็นคนวัยแก่ไล่ฆ่าวัยรุ่นดูตัวอย่างหนังมุ่งมาดว่ามันจะเป็นหนังสยองขวัญสั่นประสาท ที่ออกไปทางหนังผีแบบ ‘The Taking of Deborah Logan’ (2014) ด้วยบรรยากาศของภาพผู้สูงวัยภายใต้แสงสว่างที่ผิดธรรมดาดูอย่างใจเย็นตรงมายัตระหนี่ล้อง แต่กันตามจริง ‘Old People’’ เป็นหนังที่อยู่ในข่ายเครือญาติหนังไล่เฉือนที่มีกลิ่นแบบหนังซอมบี้เสียมากกว่าตัวเรื่องเริ่มด้วยปรากฎการณ์แปลกที่คนสูงอายุยืนขึ้นมาฆ่าผู้คนทั้งโลกตั้งแต่เปิดเรื่องในเมืองใหญ่

แต่ว่าอาจจะเพราะว่าสเกลทุนสร้างภาพยนตร์อาจจะน้อยเกินไปเลยเลือกจุดโฟกัสที่เกาะเล็กเกาะน้อยๆแห่งหนึ่งแทน โดยมีตัวละครกรุ๊ปหนึ่ง แม่ลูกสองที่กลับมาตรงนี้เพื่อมาหาบิดาที่ฝากไว้ที่ที่พักคนวัยชราที่ถูกตัดงบแทบเสมือนทิ้งร้าง ก่อนที่จะจู่ๆคืนนั้นเองผู้สูงอายุทั้งสิ้นในบ้านพักก็ลุกขึ้นยืนไล่ฆ่าคน จนถึงทำให้พวกเขาจะต้องหนีตาย โดยที่ก็สงสัยว่าบิดาของคุณจะเปลี่ยนเป็นแบบพวกเขาด้วยหรือเปล่าตัวหนังเสมือนจะมีที่ไปที่มาลางๆของสถานะการณ์ประมาณว่าอ้างอิงจะคัมภีร์ไบเบิลนิดๆในประโยคที่เป็นเสมือนคำพยากรณ์ว่าคนชราจะมีจำนวนไม่ใช่น้อย

คนหนุ่มคนสาวจำต้องประพฤติดีต่อพวกเขาเนื่องจากว่า ซีรี่ย์ซับไทย ถัดไปก็จะต้องแก้เฒ่าลงแบบเดียวกัน แม้กระนั้นเหตุการณ์ตอนนี้คนวัยชรามักถูกปล่อยปละละเลยบุตรหลาน จนกระทั่งก่อให้เกิดบางสิ่งเปลี่ยนแปลงให้คนชราเปลี่ยนเป็นคนวิปลาสบ้าจนถึงกำเนิดความวิบัตินี้ขึ้นมา ซึ่งเอาจริงเอาจังๆก็บางทีอาจจะละเลยได้ไม่ชอบใจนักว่าที่มาไม่ต้องเด่นชัดก็ได้ แบบหนังซอมบี้หลายเรื่องก็บางครั้งก็อาจจะผ่านๆส่วนนี้ไปเพื่อจุดโฟกัสฉากสยองขวัญการหาทางมีชีวิตรอดของผู้แสดงมากยิ่งกว่า

ด้วยความเฉื่อยชาแบบคนสูงวัย รวมทั้งผิวหนังที่เป็นกระเหี่ยวย่นผมระเหระหน ฟันที่เหยเก น้ำลายเยิ้ม แล้วก็ดวงตาที่จ้องมองนิ่งขมึงตึง ซึ่งบางทีอาจรวมทั้งการกระทำพิศดารที่เหมือนผลจากโรคอย่างโรคสมองเสื่อมก็ทำให้รูปลักษณ์ของพวกคนชราในเรื่องมองเป็นปีศาจร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ และก็บ่อยมากบรรยากาศแรงกดดันของพวกเขายังมีผลให้รำลึกถึงชำเลืองตาบอดใน ‘Don’t Breathe’ (2016) เสียด้วยซ้ำ แม้ว่าจะดูดิบกว่าและไม่ประดิษฐ์เท่าไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนวัยชรามีข้อความสำคัญเกี่ยวกับแนวทางที่พวกเราปฏิบัติต่อผู้สูงวัยของพวกเรา แล้วก็พวกเราไม่ใช่แค่เอ่ยถึงคนสูงอายุที่ไม่มีครอบครัว ทั้งคนแก่ผู้สูงวัยไม่ห่างหรือห่างเหินจากผู้ที่ตนรัก สมาชิกในครอบครัวที่อายุน้อยกว่านั้นยุ่งกับชีวิตของตนเองมากเกินความจำเป็น

ความแก่เฒ่าเป็นตัวสะท้อนความน่าขนลุกตัวเรื่องใช้คนชรา+ความแก่เฒ่าเป็นตัวสะท้อนความน่าสยดสยอง อย่างรูปลักษณ์ชำรุดทรุดโทรมๆที่ถูกไม่มีความสนใจเปรอะเปื้อน อ๊วกสกปรก นอนจมกองขี้ การเคลื่อนไหวช้าๆสายตาเหม่อ อะไรทุกๆอย่างที่ธรรมดามองน่าเกลียด+น่าสะพรึงกลัวลึกๆถูกประยุกต์ใช้สร้างภาพให้คนสูงอายุในเรื่องมองสยดสยอง ซึ่งก็ได้ผลเนื่องจากเวลาที่ยังไม่เป็นเรื่องคนวัยชรายืนขึ้นมาบ้าบ้าก็ยังมองน่าสะพรึงกลัวในระดับหนึ่ง แล้วพอเพียงถึงเวลาที่ลุกมาบ้าก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความน่าสยองขึ้นไปอีกโดยมาเป็นฝูงแบบซอมบี้

และก็ยังอัพเกรดให้มีแรงเคลื่อนได้ไว วิ่งได้ มิได้เดินช้าแบบคนวัยแก่ธรรมดา  ซีรี่ย์ซับไทย ซึ่งจริงๆจะพูดว่าเป็นหนังซอมบี้ก็ยังได้เลย เพียงสามารถฆ่าให้ตายได้แบบคนธรรมดาไม่ใช่อึดแบบจะต้องยิงหัวเพียงแค่นั้นตัวเรื่องทำฉากเหล่านี้ได้น่าสยดสยองแบบยอดเลย แม้กระนั้นปัญหากลับกลายผู้แสดงคนธรรมดาในเรื่องมากกว่าที่บอกตรงๆว่าก็ยังเข้าสูตรผู้แสดงทึ่มตามหนังสยองขวัญอยู่อย่างเดิม แบบถูกใจไปเปิดประตูมอง หรือมีทางฆ่าได้แต่ว่าก็ไม่ฆ่า มีปืนไว้ก็ไม่ยิง มัวแต่หนี แถมยังสร้างดราม่าทะเลาะกันแย่งเพศชายในระหว่างเรื่องอีก ซึ่งเปลี่ยนเป็นดูแล้วน่ารำคาญกับความนึกคิดของผู้แสดงในเรื่องมากพอสมควรเลย

ตัวเรื่องจบลงแบบปลายเปิดกล้วยๆก็คือทิ้งเรื่องไว้เลยว่าเกิดเหตุการณ์อย่างงี้ทั่วทั้งโลกเสมือนตอนเปิดเรื่องที่เล่าไว้แต่ก่อน ซึ่งจริงๆไอเดียเรื่องนับว่าดี กลับมิได้มีการคิดสืบต่ออะไรต่อจากนั้นเลย เพียงแค่เอามาทำให้เกิดเรื่องสยองขวัญแบบจบและจบ ไม่มีอะไรให้น่าจำสักเท่าไหร่ ก็เลยเปลี่ยนเป็นเพียงแค่หนังฆ่าเวลาเรื่องหนึ่งไปเพียงแค่นั้นเพศผู้ดูแลเชื้อสายเยอรมัน-โรมาเนีย แอนดี้ เฟตเชอร์ (Andy Fetscher) ที่เคยส่งผลงานสายชั่วร้ายในประเทศตนเองก็จัดหนักในหนังเน็ตฟลิกซ์หัวข้อนี้ของเขา ทั้งยังฉากการฆ่าที่มองเห็นกันแจ่มแจ้ง และก็หากแม้บางโอกาสจะใช้มุมกล้องถ่ายรูปเข้าช่วยแม้กระนั้นในด้านความร้ายแรงก็ยังเหลือเฟืออยู่ดี โดยยิ่งไปกว่านั้นการแต่งแผลแต่งความระบมของเหยื่อที่ทำเอาขนลุกขนพองทีเดียว

ซึ่งน่าดึงดูดว่านอกจากแนวไล่เฉือน ผลงานก่อนหน้าของเขาในเยอรมันก็มีหนังที่เอ๋ยถึงหลักสำคัญด้านสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชนแล้วก็พื้นที่ขอบอยู่ด้วย พวกเราก็เลยมองเห็นร่องรอยความนึกคิดที่เฟตเชอร์แทรกสอดในประเด็นนี้ที่น่าดึงดูด ด้วยใจความที่เอากันชัดแจ้งอย่าง “ต้องนับถือผู้สูงอายุ เนื่องจากว่าพวกเขามีจำนวนไม่ใช่น้อย และก็วันหนึ่งเจ้าก็จะเปลี่ยนเป็นพวกเขา”

ที่ชี้ปัญหาช่องว่างระหว่างวัยที่คนหนุ่มคนสาวละทิ้งคนแก่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างฉากที่พวกเขาเหม่อออกนอกหน้าต่างฟังเพลงจากงานมงคลสมรสที่ลอยมาไกลๆอย่างซึมเซานั้นช่างน่าเสียใจเอามากๆรวมทั้งนัยที่ผู้แสดงหัวหน้าทีมผู้สูงอายุที่บ้าซึ่งได้กล่าวว่าปัจจัยที่พวกเขายืนขึ้นไล่ฆ่าคนวัยหนุ่มวัยสาว ก็เนื่องจากว่าการกระทำต่อคนสูงอายุที่ไม่แตกต่างจากสัตว์รวมทั้งตัดทอนคุณประโยชน์ความเป็นคน ตามที่พวกเราเคยได้เห็นข่าวสารว่าสถานที่ดูแลผู้สูงวัยบางที่ปฏิบัติกับพวกผู้สูงอายุอย่างไม่ให้เกียรตินัก อาทิเช่นเอาสายยางฉีดล้างจ่ายตัว ฯลฯ

LUPIN Part 2

ข้างหลังทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้ในตอนสุดท้ายซัีรีส์พาร์ตแรก LUPIN กลับมาสืบต่อจากจุดที่มันวางไว้ด้วยเหตุว่าครั้งนี้เงื่อนความแค้นระหว่าง ฮัสซาน จ็อบ (โอมาร์ ซี – Omar Sy) และก็อูกางร์ เพลเลกรินี (เฮิร์ฟ ปิแยร์ – Hervé Pierre) กำลังสะเด็ดน้ำเนื่องจากว่าเพลเลกรินีเริ่มรุกรามและก็หวังตัดตอนกำจัดจ็อบออกไปให้พ้นทาง ในขณะเดีัยวกันเกมโกรธแค้นตอนนี้เริ่มทำให้จ็อบจำเป็นต้องดูย้อนว่ามันคุ้มหรือเปล่าถ้าเกิดจะต้องสูญเสียครอบครัวไปLupin พาร์ท 2 ย้ำเล่าต่อจากพาร์ท 1 ถึงเรื่องการเอาคืนให้บิดาของ Assane Diop (Omar Sy)

รวมทั้งการช่วยลูกชายที่ถูกลักพาตัวในตอนสุดท้ายพาร์ท 1 ซึ่งโดยภาพรวม พวกเรามีความคิดว่า นอกเหนือจากที่จะมิได้มีอะไรใหม่จากพาร์ท 1 แล้ว ยังไม่สนุกและไม่น่าติดตามเท่าอีกด้วย พล็อตทวิสต์ก็คาดคะเนได้ มิได้ว้าวอีกต่อไป ทั้งยังสลับตอนนี้กับสมัยก่อนถี่มากเยอะเกินไปจนถึงพวกเราคิดว่าอารมณ์ไม่ตลอด รู้เรื่องว่าผู้กำกับคนละชุดกัน แม้กระนั้นก็ไม่คิดว่ามันจะหนังคนละม้วนขนาดนี้แม้กระทั้งใจความสำคัญ racist ซึ่งเป็นคุณลักษณะเด่นของซีรีส์ก็ยังคงมีอยู่ แต่ว่าก็มิได้เสนออะไรใหม่ให้กับคนดูและสังคม ได้แก่

การปลอมแปลงตัวของดารานำชายที่ไม่มีผู้ใดคิดออกเพราะเหตุว่าชาวผิวสีที่เป็นชนชั้นแรงงานไม่เป็นที่พอใจหรืออยู่ในสายตาของคนผิวขาว อันนี้ก็ยังฉายซ้ำกับพาร์ท 1 ซึ่ง การเล่นพอยต์เดิมมันไม่ใช่เรื่องไม่ถูก แต่ว่าพอดิบพอดีว่า ซีรี่ย์ซับไทย  Lupin พาร์ท 2 มันสนุกสนานลดลง ผู้ชมก็อาจเริ่มว่างที่จะจับผิดเยอะขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่ ผู้แสดงนำชายเป็นผู้ต้องสงสัยคดีมากไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งคดีการฆ่า จนกระทั่งมีรูปประกาศหราทุกสื่อทั่วบ้านทั่วทั้งเมือง แม้กระนั้นเขาก็ยังเดินไปเดินมาตามถนนได้เหมือนเช่นเคย ซึ่งเป็นอะไรที่พวกเราเริ่มไม่เชื่อฟังแล้ว

นับเป็นความหลักแหลมของผู้ผลิตไม่น้อยที่เลือกเสนอซีรีส์ชุดนี้ในแบบไม่นิซีรีส์ (Mini Series) 5 ตอนแล้วแบ่งการเล่าเรื่องออกเป็นภาคแทนกระบวนการทำซีรีส์ยาวๆแล้วให้ผู้ชมรอคอยผ่านปีเพราะว่านอกเหนือจากจะสนองตอบกับความต้องการต้องการมองต่อของผู้ชมได้ทันเวลาแล้วมันยังมีผลให้ช่วงเวลาของงานโปรดักชันสั้นลงและก็สามารถระบุโปรแกรมลงสตรีมไม่งในช่วงเวลาที่ไม่ห่างจากภาคที่แล้วเท่าไรนัก

โน่นเลยทำให้เรื่องราวที่ซีรีส์ทิ้งในภาคแรกอย่างการที่ ราอูล (เอ้อแตน ซิมง – Etan Simon) ลูกชายของฮัสซานถูกมือสังหารของอูกางร์จับกุมไปและก็รอยร้าวในความเกี่ยวข้องของเขากับแคลร์ (ลูดิวีน ซานเยร์ – Ludivine Sagnier) ถูกสืบต่อและก็สตาร์ทเครื่องได้เร็วเนื่องจากเนื่องมาจากเว้นระยะห่างจากซีรีส์ภาคแรกไม่นานนักหรือคนใดกันจะเริ่มมองตั้งแต่ภาคแรกก็ไม่ถึงกับเสียเวล่ำเวลาชีวิตนักเนื่องจากว่าก็มีเพียงแต่ 5 ตอนแค่นั้นรวมกับภาคนี้ก็ยาวเพียงแค่ 10 ตอนพอๆกับมองซีรีส์ซีซันเดียวเพียงแค่นั้น

ผลเป็น 5 ตอนใน ดูหนังผ่านเน็ต ‘LUPIN’ ภาคนี้เดินเรื่องด้วยสปีดขั้นสุดไม่มีผ่อนไม่มีรั้งให้เสียเวล่ำเวลาด้วยเหตุผลดังกล่าวการมีข้อมูลของซีรีส์ในภาคแรกก็เลยเป็นความต้องการมากมายด้วยเหตุว่ารายละเอียดส่วนมากเป็นการแลกหมัดระหว่างฮัสซานกับอูกางร์แบบไม่มีผู้ใดยอมคนไหน โดยในเวลาที่ข้างแรกอุตสาหะจะรักษาครอบครัวเอาไว้ฝ่ายหลังก็ทำให้มองเห็นอำนาจด้านการเมืองซึ่งสามารถเอาชีวิตรอดไปได้ทุกหนนอกเหนือจากนั้นซีรีส์ภาคนี้ยังให้ความเอาใจใส่กับการเล่าเรื่องราวจากฝั่งตำรวจที่มีมิติมากยิ่งกว่าเพียงแค่ตามจับฮัสซาน

กระทั่งสุดท้ายภารกิจชำระแค้นของฮัสซานเลยเปลี่ยนเป็นกรรมวิธีปราบคดโกงไปโดยปริยายรวมทั้งผู้ชมอย่างพวกเราก็อดเอาใจช่วยผู้แสดงนำชายที่เค้าหน้าบางทีอาจไม่ใช่พิมพ์นิยมแต่ว่าเสน่ห์เหลือเฟืออย่างฮัสซานแบบนั่งไม่ติดเก้าอี้อย่างยิ่งจริงๆ ในเวลาเดียวกันพวกเราเองก็จะต้องลุ้นให้ฝั่งตำรวจทัี่นำขึ้นรถการปฏิบัติยอดรัก เอ้ย ! โซเฟีย บูค้างเซม (ชิริน บูเทลลา – Shirine Boutella) ได้ปราบคนขี้โกงเสร็จเสียรู้ถึงกระนั้นก็ใช่ว่า ‘LUPIN’ ภาคนี้จะไม่มีซึ่งอารมณ์โรแมนติกเสียเชิงเดียวด้วยเหตุว่า

โอกาสนี้บทซีรีส์ได้เอาล่อเอาเถอะด้วยการเล่าเรื่องราวการชำระแค้นของ ซีรี่ย์ซับไทย ฮัสซานตัดสลับกับภาพแฟลชแบ็ก (flashback) ที่ทำให้เงื่อนความรักของฮัสซานตอนเด็ก (มามาดู ไฮศิลปิน-Mamadou Haidara) ที่มีอีกทั้งความรักและก็ข้อผิดพลาดบาปของเขากับแคลร์ (ลัดไม่ลลา มาวัววสกี – Ludmilla Makowski) แล้วก็การเริ่มความเกี่ยวเนื่องที่ส่งผลให้เกิดความแค้นกับ จูเลียต เพลเลกรินิ (ลีอา บอนนู – Lea Bonneau)

History of Swear Words

History of Swear Words สารคดีซีรีส์ดำเนินรายการโดย Nicolas Cage ที่จะพาไปตรวจสอบแหล่งกำเนิดของคำพูดที่ไม่สุภาพ ทั้งยังในมุมของวัฒนธรรมพอเพียงป วิทยาศาสตร์ รวมทั้งผลพวงต่อสังคมของคำพูดที่ไม่สุภาพที่คนรู้จักกันสูงที่สุดในโลกชีวิตของพวกเรา พวกเราชอบใช้ “คำพูดที่ไม่สุภาพและหยาบคาย” กันจนเคยชิน ใช้กันจนถึงคงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแล้วละมั้งครับผม แม้กระนั้นเคยสงสัยกันไหมขอรับว่าคำพูดที่ไม่สุภาพที่พวกเราใช้กัน อีกทั้งในตอนที่ดุด่า หรือโดนดุ หรือใช้เพื่ออุทาน สบถ ต่างๆนานานั้นมีที่มายังไง มันเปลี่ยนมาเป็นคำพูดที่ไม่สุภาพและหยาบคายได้เช่นไร แล้วคำพูดไม่สุภาพเปลี่ยนมาเป็นคำต้องห้ามได้ยังไง

มันมีกลไกอะไรบ้างที่ทำให้เมื่อพวกเราได้ยินคำพูดที่ไม่สุภาพ พวกเราก็เลยมีความรู้สึกว่ามันอีกทั้ง“หยาบคาย” ระ “คาย” หู รวมทั้งจิตใจเสียอย่างยิ่ง เพราะเหตุใดเวลาพวกเราสบถกับตนเองเบาๆพวกเราก็เลยกระปรี้กระเปร่า แต่ว่าเพราะเหตุไรเวลาพวกเราโดนดุ พวกเราก็เลยรู้สึกขุ่นข้องหมองใจจนกระทั่งต้องการจะมีเรื่องมีราว หรือเพราะอะไรคำหยาบคายบางคำ ที่เคยแปลงเป็นคำต้องห้ามในสังคมเวลาหนึ่ง แต่ว่าเพราะอะไรเพียงพอมาถึงเดี๋ยวนี้ มันเปลี่ยนไปไปเป็นคำเป็นที่ยอมรับได้มิหนำซ้ำ คำพูดไม่สุภาพบางคำ ทำให้หนังบางเรื่อง เพลงบางเพลง อัลบั้มบางอัลบั้ม หนังสือบางเล่ม ผู้เขียน นักร้อง ดาราบางบุคคล แปลงเป็นที่จำ ยกตัวอย่างก็ “Motherf**ker” ของคุณลุงแซมมวล แอล. แจ็กสัน หรือคำว่า “ไอ่สั๊ด!” ของน้าค่อม เชิญชื่น อะไรอย่างงี้ฯลฯ

ต่างๆนานาที่ผมชูมาทั้งผองทั้งสิ้นนี้  ซีรี่ย์ซับไทย อาจมิได้เกิดขึ้นเพียงแค่เนื่องจากว่ากลไกเรื่องของ “ภาษารวมทั้งความหมายของคำ” แค่เพียงหนึ่งเดียวโดยลำพังแน่นอนเคยสงสัยกันไหมนะครับว่า ไอ้ที่พวกเราดุด่าๆกัน หรือเคยโดนด่าทอ เพราะเหตุไรพวกเราถึงจำเป็นต้องเอาคำนั้นมาด่า มันสื่อความหมายอะไรที่มากกว่านั้นหรือไม่นะHistory of Swear Words เป็นสารคดีซีรีส์ Original เรื่องใหม่ของ Netflix ขอรับ ซึ่งก็ตามชื่อเลยว่า เป็นสารคดีที่ว่าด้วยเรื่องประวัติศาสตร์ของ “คำพูดที่ไม่สุภาพและหยาบคาย” โดยทั้งยัง 6 ตอนในซีซันแรกนั้น ย้ำการเล่าเรื่องต้นกำเนิด ประวัติศาสตร์ แหล่งที่มา รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องอื่นๆตั้งแต่เรื่องของภาษา การเกิดทางด้านสังคม เพศ ชนชั้น ศาสนา ความศรัทธา

การบ้านการเมือง การปกครอง สุขภาพทางร่างกายแล้วก็จิต ความประพฤติปฏิบัติ แล้วก็แน่ๆว่า จะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับสื่อหรรษา ตั้งแต่ภาพยนตร์ เพลง รายการทีวี หรือแม้กระทั้งโชว์ Stand Up Comedy (ผู้เดียวไมค์) ซึ่งเปรียบได้เสมือนดั่ง “พื้นที่” เดียวในสังคมที่ยังได้รับความยินยอมพร้อมใจให้คำพูดที่ไม่สุภาพเล็ดลอดออกมาได้บ้างผ่านการจัดเรตแย้งทั้งสิ้นนี้เดินเรื่องผ่านการสัมภาษณ์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษา สังคม วัฒนธรรม และก็เพลิดเพลิน ที่จะมาเล่าถึงมุมมองทางด้านภาษาของคำพูดที่ไม่สุภาพ

มุมมองแล้วก็ผลพวงต่อสังคมที่เกี่ยวโยงจากคำพูดไม่สุภาพนั้น หรือแม้กระทั้งผลพวงทางจิตวิทยา แล้วก็การเกิดทางร่างกายที่เกี่ยวกับคำหยาบคายด้วย รวมทั้งคณะทำงานยังคิดบันเทิงใจ ไปสัมภาษณ์ศิลปิน ดาราหนัง ดาวตลก ผู้แสดงคนเดียวฯ หลากหลาย เพี่อมาด้วยกันให้ความคิดเห็นและก็เปลี่ยนมุมมองใหม่ๆเกี่ยวกับคำหยาบด้วย และก็ทั้งสิ้นนี้ถูกขมวดรวมแล้วก็พรีเซ็นท์โดยผู้ดำเนินรายการอย่างคุณลุง  Nicolas Cage (ผู้เคยพ่นคำว่า BITCH ในหนังเรื่อง Face/Off (1997) มาแล้ว)

ส่วนตัวผมถูกใจคุณลุงมึงในลุคนี้ครับ ภายหลังที่ข้างหลังๆเอ็งถูกใจรับงานหนังด้วยคติ “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจนกระทั่ง” รับเล่นหนังไร้สาระอะไรก็ไม่รู้เรื่องตั้งหลายเรื่อง ลุคของคุณลุงมึงก็เลยออกมาเป็นอะไรก็ไม่ทราบ จำไม่ค่อยได้ แต่ว่าครั้งนี้ผมว่า คุณลุงเอ็งเท่มากๆครับผม คุณลุงมองแปลงเป็น “เครื่องด่าทอ” ที่พร้อมจะหลุดคำสบถ พ่นคำด่าว่า ปลดปล่อยสัตว์เลื้อยคลาน (จากปาก)

ออกมากัดพวกเราได้ทุกครั้ง 555และก็เพียงพอเป็นสารคดีคำพูดที่ไม่สุภาพและหยาบคายที่มาในรูปของซีรีส์ ทั้งยังหกตอนในซีซันแรกก็เลยมีชื่อตอนเป็น “คำหยาบ” ทั้งปวง ยกตัวอย่างเช่น “FUCK”, “SHIT”, “BITCH”, “DICK”, “PUSSY“, รวมทั้ง “DAMN” พูดได้ว่าเป็นชื่อในระหว่างที่ “โคตรไม่สุภาพ” เลยนะครับ 555

ก็แหงล่ะ เพราะเหตุว่าซีรีส์ประเด็นนี้เขาเล่าของประวัติศาสตร์คำหยาบ ซีรี่ย์ซับไทย  คำละหนึ่งตอน ตอนละราว20 นาที เจาะลึกคำพูดที่ไม่สุภาพและหยาบคายแต่ละคำกันแบบทุกด้านทุกมุม ตั้งแต่เรื่องของแหล่งกำเนิด รากศัพท์ ภาษา การเรียนการปรากฏที่ชี้แจงว่าเมื่อพวกเราบอกคำ (ไม่สุภาพ) นั้นออกไปแล้ว จะก่อให้เกิดผลกระทบยังไงกับคนภายในสังคมบ้างรวมทั้งเรื่องที่น่าดึงดูดที่พวกเราบางทีอาจคิดไม่ถึงก็คือ คำหยาบอันที่จริงแล้ว อาจมีความหมายที่ไม่จีรังยืนยง ด้วยความเคลื่อนไหวความหมายตามประวัติศาสตร์แล้วก็การใช้

มันทำให้ความหมายของคำพูดที่ไม่สุภาพบางคำนั้นแปรไป เปลี่ยนเป็นคำธรรมดาๆที่สื่อความหมายโดยนัย “กว้างขึ้น” รวมทั้ง “มีความนัยที่สื่อถึงความหยาบคาย” ลดน้อยลง เมื่อใช้ในบริบทแล้วก็น้ำเสียงที่ไม่เหมือนกันออกไปแบบอย่างที่น่าดึงดูดก็เป็นต้นว่าตอน “PUSSY” จุดมุ่งหมายถึงของสงวนของสตรี ซึ่งจริงๆมันมีที่มาหลายตลบมากมายๆตั้งแต่การที่มันสื่อความหมายด้วยกันในหลายๆภาษา คาดคะเนว่า รากศัพท์บางทีอาจหมายความว่าประตู หรือกระเป๋ามาก่อน (ซึ่งก็เหมือนอยู่นะ) จวบจนกระทั่งคลี่คลายเปลี่ยนไปเป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกแมวหรือลูกแมว จนตราบเท่ามันก็ถูกนำเอามาเรียกสตรีในเชิงชื่นชอบทำนองว่า

Candyman แคนดี้แมน

ปี 2020 เป็นอีกหนึ่งปีที่มีหนังสยองขวัญเข้าฉายหลายเรื่อง และก็โดยมากก็ยังคงแนวความคิดทุนต่ำแต่ว่าหวังทำเงินสูงแม้ว่าจะเป็นหนังสตูดิโอใหญ่ อาทิเช่น The Invisible Man ของค่าย Universal Pictures ที่กำลังจะเข้าฉายมีนาคมนี้ ซึ่งเป็นเจ้าของทุนสร้าง 7 ล้านเหรียญฯ แล้วก็ได้รับการคาดหมายว่าจะเปิดตัวเกิน 20 ล้านเหรียญฯ รวมทั้งปิดโปรแกรมระดับใกล้ๆ100 ล้านเหรียญฯ ในสหรัฐอเมริกา อย่างยิ่งจริงๆ

ช่วงเวลาเดียวกันหนังสยดสยองฟอร์มดีอีกหัวข้อของค่ายเดียวกันอย่าง  Candyman ก็ปล่อยเนื้อปล่อยตัวสิ่งแรกออกมาแล้ว ซึ่งเป็นฉบับรีเมกของหนังปี 1992 ที่เคยใช้ชื่อไทยว่า “เคาะแดนนรก 5 ครั้ง วิญญาณไม่เรียกกลับ”หนังได้ Jordan Peele ที่สร้างชื่อมาจาก Us (2019) รวมทั้ง ซีรี่ย์ซับไทย Get Out (2017) มารับหน้าที่อำนวยการสร้าง ในหนังสยองขวัญที่แสดงนำ

โดยนักแสดงหลักที่เป็นแอฟริกัน-อเมริกัน และก็มีข้อความสำคัญดูถูกผิวซ่อนเร้นในเรื่องด้วย โดยต้นฉบับที่ออกฉายในปี 1992 ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขจากเรื่องสั้น “The Forbidden” ในซีรีส์ Book of Blood ของ Clive Barkerเรื่องย่อ : ในปี 1890 Daniel Robitaille ผู้หลุดพ้นจากชนชั้นข้ารับใช้ ประกอบไปด้วยการเรียนอย่างยอดเยี่ยม แล้วก็การฝึกฝนแนวทางกระทำในสังคมชั้นสูง

เขาเป็นนักวาดภาพดังที่เขาใฝ่ฝัน ซึ่งหาตัวจับยากคนหนึ่งในแถบตอนใต้ บรรดาผู้ครอบครองเรือกสวนนา ทั้งคนขาวผู้มีอันจะกิน ที่เคยซื้อขายบรรพบุรุษของเขาเช่นวัวควายจะต้องมาชำระเงินก้อนสวยให้ไอ้หนุ่ม Robitaille บรรจงระบายความมั่งมีและก็สถานภาพทางสังคมของพวกเขาให้งามเด่นเกินจริงบนผืนผ้า ใบ หนึ่งในปริมาณนี้ก็มีพ่อของ Caroline Sullivan ที่มาจ้างชายหนุ่มอเมริกันเชื้อสายอัฟริกันผู้น่าไว้วางใจนี้ ให้วาดภาพลูกสาวแสนงามรวมทั้งบริสุทธิ์ของเขาด้วยเช่นเดียวกัน

นับเป็นการ สนทนาธุรกิจที่ทำให้ Robitaille ที่น่าสังเวช  betflikusa  จำเป็นต้องสูญเสียเลือดเนื้อและก็วิญญาณลงในในที่สุดพ่อของ Caroline โกรธโกรธจนกระทั่งหูตามัว เมื่อรู้ว่าลูกสาวใสซื่อบริสุทธิ์ของเขากระจู๋กระจี๋กับคนดำ ด้วยมีความรู้สึกว่ากิตติศัพท์ตระกูลจึงควรเสื่อมเสีย แนวทางเดียวที่จะไถ่บาปนี้ได้เป็นกำจัด Robitaille เขาส่งกองทัพมนุษย์ออกตามล่าตัวคู่รักของลูกหญิง เข้าป่าไปจนถึงหมดทางหนี แล้วก็รวมทั้งเลื่อยมือขวาของเขาทิ้งอย่างโหดร้าย

โดยใช้ตาขอเกี่ยวเนื้อแทงเข้าไปแทนที่มือที่มีพรสวรรค์นั้นแบบใหม่ๆทั้งๆที่ยังมีเลือดออกท่วมอยู่ เพื่อเขาไม่อาจจะวาดภาพได้อีกต่อไป ความขาดความกรุณาปรานียังไม่สิ้นสุดลงเพียงเท่านั้น พวกมันยังไล่ล่ารังผึ้งจากรวงผึ้งแล้วเอาน้ำผึ้งทาทั่วตัว Robitaille ทำให้บรรดาผึ้งขุ่นเคืองที่รังของพวกตนถูกทำลาย ก็เลยโผเข้าซ้ำๆความหวานที่ฉาบตัว Robitaille ซึ่งเจ็บโชกเลือดอยู่ เหล็กไนของผึ้งเบาๆเจาะซอกเซาะร่างกายซึ่งยังมีชีวิตของ Robitaille ที่กำลังปวดชักดิ้นชักงออยู่โดยพลันนั้นพ่อของ Caroline ก็โผล่หน้ามากยิ่งกว่าเดิมลางกลุ่มคน

แล้วยื่นกระจกส่องส่องไปที่บริเวณใบหน้าของเหยื่อ แล้วเย้ยหยันว่า “มีความคิดว่าบุตรสาวเรายังจำเป็นจะต้องการเจ้าอยู่อีกหรือ” บริเวณใบหน้าของ Robitaille เสียโฉมไปสิ้นด้วยพิษของเหล็กไน ที่อีกทั้งเจาะไชแล้วก็ต่อยเขากระทั่งน่วมไม่บางทีอาจปะติดปะต่อตนเองในกระจกได้ เขาจ้องดูร่างกายบวมฉึ่งอาบเลือดของตนเองในขณะหมู่คนโห่ร้องเรียกเขาว่า Candymanจากนั้นก็มีเรื่องมีราวเล่าว่าวิญญาณของชายคนนั้นมิได้ไป ไหนรอคอยวันล้างแค้น แล้วก็แนวทางที่จะเรียกเขามากมายลับมาแสดงตัวให้มองเห็นซึ่งก็คือ ให้เรียกชื่อ แคนดี้แมน 5 ครั้ง… ข้างหน้ากระจกแล้วเขาก็จะมาหา… แล้วก็ใช้มือตาขอตามฆ่าคนผู้นั้นให้ตายอย่างสยองขวัญที่สุด

เกิดเรื่องราวสยองขวัญในตำนาน เรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง ของ Clive Barker ถ้าท่านมุ่งหวังว่า Candyman Series จะเป็นภาพยนต์สยดสยองตื่นเต้นตามแบบฉบับทั่วๆไปล่ะก็ ท่านบางครั้งก็อาจจะจะต้องผิดหวังนะครับ มีเพียงแต่ภาคแรก

แค่นั้น ที่ทำออกมาได้ดิบได้ดี ครบถ้วนบริบูรณ์เรื่องสยองขวัญหน่อย ทั้งยังในเรื่องของฉากแล้วก็บรรยากาศ ที่ชักชวนสยองขวัญ ตามแบบหนังสยดสยองสมัย 90’sเล่าราวถึง ซาตานตนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในสมัยโบราณ ตอนยังมีชีวิตอยู่นั้นเป็นลูกของข้ารับใช้ (เล่นบทโดย Tony Todd ที่มีหนังได้รับความนิยมอย่าง Final Destination (2011) แล้วก็ซีรีส์ 24)

แต่ว่าเนื่องจากผิดผีไปสมรสกับสตรีผิวขาว ก็เลยโดนจับไปตัดแขน  ซีรี่ย์ซับไทย สวมตาขอที่มือ แล้วถูกราดด้วยน้ำผึ้งให้ผึ้งมาต่อยเขาจนตายเป็นภูตผีปิศาจ “แคนดี้แมน”เมื่อถึงปัจจุบันตามเนื้อเรื่อง “เฮเลน ไลล์” (สวมบทบาทโดย Virginia Madsen จากซีรีส์ Designated Survivor) นางเอกของเรื่องที่ทำวิทยานิพนธ์เรื่องตำนานเขตแดน คุณเพียรพยายามลบล้างว่าตำนานนี้ไม่มีอยู่จริง แคนดี้แมนก็เลยกลับออกก่อกวนเพื่อความน่าสยดสยองแล้วก็ความสยดสยองไม่หลงๆลืมๆไปจากผู้คน

จากแบบอย่างของฉบับปี 2020 ดูเหมือนจะเป็นภาคต่อของฉบับปี 1992 มากยิ่งกว่าจะเป็นการรีเมกเรื่องราวใหม่ ตัวนำกลายเป็นนักแสดงชายหนุ่มนักช่างวาดภาพ “แอนโธนี แม็คคอย” รับบทบาทโดย Yahya Abdul-Mateen II จาก ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต Aquaman (2018) แล้วก็เริ่มจะมีบทสำคัญใน The Matrix 4 เขาได้ย้ายมาอยู่ในเขตเดียวกับที่เคยเกิดเหตุการณ์สยองขวัญขึ้น

ซึ่งผู้คนได้หลงๆลืมๆตำนานสยดสยองไปแล้วเขาเริ่มหมกมุ่นกับเรื่องราวของภูตผีปิศาจแคนดี้แมนและก็อาจมีส่วนโดยไม่ได้คาดคิดที่ทำให้ผีกลับฟื้นชีวิต แอนโธนียังเป็นลูกของ “แอนแมรี แม็คคอย” ที่เป็นตัวละครจากฉบับปี 1992 รับบทบาทโดย Vanessa Williams ซึ่งคงจะมีบางอย่างเชื่อมโยงมาถึงภาคใหม่นี้ด้วย